ใครที่คิดว่าสวิตฯอยู่บนเขาแล้วไม่มีชายหาด เข้าใจผิดแล้วค่ะ ถ้าไม่เชื่อลองมาดูกันว่ามันเป็นอะไรอย่างไรกัน เส้นทางเดิน hiking จาก Prau la Selva ไป Il Spir ระยะทาง8 กิโลเมตรใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ผ่านทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สดแปร๋น Caumasee นั่นคือตัวอย่างหนึ่งของทะเลและหาดทรายของคนสวิสนั่นเอง
ในวันอาทิตย์ต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศดีและเหมือนจะเริ่มเข้าฤดูร้อนเร็วกว่าปกติ แดดออกและอุณหภูมิประมาณ 20 ถึง 23 องศาเซลเซียส จะรอช้าอยู่ไยจึงรีบหาเส้นทางเดินป่าสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ไม่ไกลบ้านกันดีกว่า ปกติฉันเป็นคนชอบเส้นทางที่เดินท่ามกลางต้นสนสูงๆในป่าและได้เห็นวิวทะเลสาบและแม่น้ำด้วย จึงมาลงตัวที่เส้นทางนี้ เมืองที่ใกล้เส้นทางนี้ที่สุดที่อาจจะคุ้นหูกันก็คือเมือง Flims ซึ่งเป็นจุดเล่นสกีที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและไม่ไกลจากเมืองซูริก (ฉันเคยไปเล่นสกีตรงนี้มาแล้ว เป็นอีกจุดหนึ่งสำหรับคนท้องถิ่นที่ชอบมาก มันเชื่อมกับLaax เมืองซึ่งเป็นเมืองสกีที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์)
เราเริ่มเดินกันโดยไปจอดรถที่ Sports center ของเมือง Prau la Selva จากตรงจุดนั้นก็เป็นชายป่าที่เริ่มเดินเข้าป่ามุ่งหน้าไปทางทะเลสาบได้เลย มีป้ายสีเหลืองบอกเส้นทางเดินอย่างชัดเจน
ทางช่วงแรกเดินในป่าร่มครึ้มดีแต่ยังไม่ค่อยสวยตื่นเต้นเท่าไหร่ เหมือนกับป่าหลังบ้านทั่วไป แต่เดินเพียงแค่15 นาทีก็มาถึงทะเลสาบ Caumasee ที่พอแค่เห็นก็ต้องร้องว้าวแล้ว เพราะน้ำเป็นสีฟ้าสดงามมากๆ สีไม่ต่างจาก Blausee ที่ขึ้นชื่อและเคยเขียนถึงเอาไว้ในบล็อกแล้วเลย แต่ Caumasee นี้เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่กว่า Blausee เยอะและให้คนลงว่ายน้ำเล่นได้ (ที่ Blausee ไม่ให้คนลงว่ายน้ำเล่นแต่จะเป็นทะเลสาบสำหรับตกปลา) ดังนั้นโดยรอบทะเลสาบที่นี่จึงมีลักษณะเป็นเหมือนหาดทรายและมีสนามหญ้าให้คนมานอนผึ่งแดดกันเหมือนกับตามริมทะเลเลย นี่แหละที่บอกว่าสวิตฯก็มีทะเลและชายหาด ก็มันดูเหมือนจริงๆนี่นา
วันนั้นอากาศดีจึงมีฝรั่งมาปูผ้าเช็ดตัวนอนปิ้งอาบแดดกันเยอะแล้วทั้งที่จริงๆช่วงเวลานี้ยังเป็นเพียงต้นฤดูใบไม้ผลิซึ่งปกติอากาศจะยังเอาแน่นอนไม่ได้ มันจึงยังไม่ถึงวันที่เขาจะเก็บเงินค่าเข้า เลยเป็นว่าทุกคนเดินเข้าไปชมทะเลสาบและนั่งเล่นนอนเล่นได้ฟรีโดยไม่เสียสตางค์
ฉันเดินชมรอบทะเลสาบด้านในแทบทุกหาดไปจนทั่ว มีร้านอาหารและมีที่ให้นั่งทานอาหารชมวิวอย่างชิลเก๋ด้วย แต่ร้านที่เปิดมีเพียงแค่บาร์ขายของกินเล่นและเครื่องดื่มเท่านั้น พอจะนึกออกเลยว่าถ้าเป็นหน้าร้อนเต็มที่ที่นี่คงจะแน่นขนัดไปด้วยคนที่มาทั้งนอนอาบแดดและลงว่ายน้ำเล่นทีเดียว จึงนับว่าโชคดีที่วันนั้นได้ชมบรรยากาศงามๆโดยที่ไม่ต้องแก่งแย่งกับคนมากและไม่ต้องเสียเงินเข้าด้วย ได้เห็นครอบครัวคนสวิสมาพักผ่อนกันจริงๆ เด็กๆลงเล่นน้ำและหนุ่มสาววัยรุ่นว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน ที่ฉันชอบมากๆก็คือน้องหมาหลายตัวก็ลงว่ายน้ำเล่นและกระโดดไปงับกิ่งไม้ที่เจ้าของโยนไปให้คาบกลับมาด้วย น่ารักมีชีวิตชีวาสดชื่นจริงๆเลย
แต่จุดหมายจริงๆของเราคือไม่ได้จะมานั่งๆนอนๆที่ทะเลสาบนี้อย่างเช่นคนอื่นเขาเรามาเดินป่ามากกว่าดังนั้นพอหยุดถ่ายรูปจนหนำใจ (ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรเพราะเดินไปมุมไหนก็สวยไปหมดต้องหยุดถ่ายรูปตลอดเลย) จากนั้นแล้วเราจึงออกเดินไปตามเส้นทางเดินป่าเลยทะเลสาบมุ่งหน้าไปยัง Il Spir ซึ่งจะใช้เวลาเดินอีก 40 นาทีตั้งใจว่าจะไปทานอาหารกันที่นั่นเพราะตรงนั้นมีร้านอาหารในป่าชื่อ Conn ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยมากเส้นทางเดินช่วงนี้ร่มรื่นสวยงามสบายใจทีเดียวเพราะส่วนมากเดินในร่มไม้ มีจุดพักให้ชมวิวมองลงไปเห็นหุบเขาเห็นแม่น้ำด้านล่าง และเห็นทางรถไฟที่เจาะทะลุลอดใต้ภูเขาและมาโผล่ออกเป็นสะพานข้ามแม่น้ำด้วย เดินไปชมวิวไปเหงื่อออกกำลังดี บางช่วงเปิดโล่งเห็นทุ่งหญ้ามีดอก Dandelion สีเหลืองบานเต็ม มีบ้านเป็นกระท่อมน่ารักไม่กี่หลังอยู่ และมีวิวภูเขาสูงด้านหลังที่ยังมีหิมะปกคลุมอยู่เป็นวิวแบบที่ต้องบอกว่าสวิ้ตสวิตสวยจริงๆ
พอมาถึง Il Spir กลายเป็นว่าร้านอาหารปิดเลยเซ็งสุดๆเพราะท้องกำลังร้องจ๊อกๆหลังจากเดินมา2 ชั่วโมงกว่าแต่ก็เข้าใจได้เพราะจริงๆแล้วยังไม่เข้าฤดูกาลที่อากาศอบอุ่นอย่างจริงจังแม้ตรงทางเข้าเขาก็ยังไม่ได้เก็บเงินช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงระหว่างที่ร้านอาหารและโรงแรมต่างๆในย่านนี้ปิดพักผ่อนประจำปีกันยาวถึงสองเดือนเลยในเมื่อทำอะไรไม่ได้เราก็เที่ยวชมธรรมชาติต่อไปก็แล้วกันตรงจุดนี้มีจุดชมวิวซึ่งสร้างเอาไว้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามทีเดียวเพราะทำเป็นหอคอยสูงในรูปทรงแปลกชานด้านบนแผ่เป็นปีกสามเหลี่ยมต้องเดินไต่บันไดขึ้นไปตรงข้างบนมองลงมาเห็นวิวแม่น้ำสายยาวและโตรกผาของภูเขาฝั่งตรงข้ามเป็นจุดชมวิวที่แนะนำให้มาชมอีกจุดหนึ่งทีเดียว
จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะแวะทานข้าวและชมวิวที่นี่แล้วจะเดินวนเป็นวงกลมกลับไปที่เดิมโดยจะใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมง จึงต้องเปลี่ยนแผนเพราะหิวข้าวกันมากๆและเวลาก็เย็นลงแล้ว จึงตัดสินใจเดินกลับเส้นทางเดิม โดยย้วยเข้าป่าเปลี่ยนเส้นทางนิดหน่อยแต่ก็โผล่กลับมาเชื่อมกับทางเดินตรงทะเลสาบที่เดิม ใช้เวลาเดินกลับอีก 40 นาทีถึงทะเลสาบ ตอนนี้แทบไม่เหลือคนอยู่แล้วทำให้ทะเลสาบสวยสงบยิ่งขึ้นไปอีก เราต้องเดินต่อไปอีก15 นาทีจึงถึงที่จอดรถขากลับช่วง 15 นาทีสุดท้ายนี้เหนื่อยพอควรทีเดียวเชียวเพราะไม่มีอะไรในท้องเลย และเป็นการเดินขึ้นเนินในป่าทั้งหมด แต่หากใครจะมาชมทะเลสาบอย่างเดียวและไม่อยากเดินเหนื่อยก็สามารถมาจอดรถอีกที่หนึ่งได้ และสามารถนั่งกระเช้าลงมาถึงทะเลสาบ Caumasee ได้เลยง่ายมาก พาเด็กๆและผู้สูงอายุมาได้สบายๆ
แต่ถ้าใครอยากเดินป่า เส้นทางนี้ก็นับเป็นเส้นทางที่นับว่าเดินง่ายมากๆ ถนนกว้างและแบนมีช่วงที่ต้องเดินขึ้นเนินไม่มาก สรุปแล้วเป็นที่ที่เหมาะกับหลายความต้องการ ทั้งเด็ก คนแก่ คนอยากเดินแบบไม่ยาก และคนอยากมานั่งๆนอนๆริมหาด
อยากให้คนมาสวิตเซอร์แลนด์ได้เห็นสวิตฯในมุมแบบนี้ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเห็นและอย่างที่เคยพูดไว้หลายครั้งว่าถึงแม้สวิตฯจะแพงแต่การเที่ยวสวิตฯแบบที่ดีที่สุดคือการเดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิดนี้เป็นการเที่ยวที่แทบจะไม่ต้องเสียเงินเลย