คำนำจากหนังสือ
“ชิลี” กลายมาเป็นประเทศในใจอันดับต้นๆของฉันอย่างไม่คาดคิด ก่อนไปก็ไม่ได้หวังไว้เลยว่าจะติดอกติดใจมากมายจนต้องกลับไปอีกหลายครั้ง และตอนนั้นก็ไม่ได้รู้จักประเทศนี้มากนัก ที่ใฝ่ฝันอยากไปจริงๆก็คือเกาะ Rapa Nui หรือ Easter Island เกาะที่ไกลที่สุดในโลกที่มีรูปหินแกะสลักหน้าคนยืนเรียงกันเป็นแถวริมทะเล แต่พอได้ไปเข้าจริง หลายที่ทั้งทะเลทราย Atacama ที่แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อุทยานแห่งชาติ Torres del Paine ที่ขั้วโลกใต้ หรือกระทั่งเมืองหลวง Santiago และเมืองใกล้เคียงเช่น Valparaiso ฉันก็พบว่าประเทศนี้มีธรรมชาติที่หลากหลายครบทุกแบบ ทะเลทราย ภูเขาน้ำแข็ง เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก เทือกเขาแอนดิสสูงเทียมเมฆ และทุกที่นั้นสวยงามกินใจชนิดที่สถานที่ที่ดังกว่าอื่นๆกลับสู้ไม่ได้เลย
นอกจากนั้นชิลียังมีความสะดวกสบายและรสนิยมของการท่องเที่ยวที่ดีเยี่ยม คงเพราะเป็นประเทศที่นับว่าร่ำรวยกว่าประเทศอื่นๆในอเมริกาใต้ และมีความเป็นยุโรปมากกว่า โรงแรมร้านอาหารร้านค้าเก๋ๆมีมากมาย สถาปัตยกรรมสมัยใหม่แต่มีเอกลักษณ์ของตัวอย่างไม่เหมือนใคร บ้านชิลีสวยๆลงนิตยสารแต่งบ้านระดับโลกให้เห็นบ่อยๆ ส่วนที่เป็นเมืองเก่าก็ดูแลเก็บอนุรักษ์ไว้ ไม่ขัดกันกับชีวิตประจำวันที่สะดวกสบาย เรียกว่าเป็นประเทศที่ร่วมสมัยมาก และมีสถานที่กิ๊บเก๋ให้ตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นใหม่ๆตลอด
กิจกรรมก็มีให้ทำมากมาย ลานสกีชั้นยอดติดอันดับโลก ตกปลาปีนเขาขี่ม้าเล่นเรือ สารพัดจะเลือก ที่สำคัญ เป็นประเทศที่มีความสมดุลระหว่างความเป็นเมืองและธรรมชาติอย่างดี อยู่ใจกลางเมืองหลวงซานติอาโกก็เห็นเทือกเขาแอนดิสเป็นแนวโอบล้อมเมืองเอาไว้ ออกนอกเมืองไปชั่วโมงเดียวก็ถึงไร่ไวน์หรือภูเขาเล่นสกี
ส่วนที่ยิ่งไม่คาดคิดไปกว่านั้นก็คืออาหาร ไม่เคยมีใครรู้จักหรือพูดถึงอาหารชิลี เรื่องจานประจำชาติคงไม่เท่าไร แต่วัตถุดิบนี่สิสุดยอดมาก อาหารทะเลสดๆจากแปซิฟิกที่หากินที่อื่นไม่ได้ เช่นปูยักษ์ Centolla หอย Machas ปลา Congrio อะโวคาโดอวบแน่น สตรอเบอรี่ ปลาซาลมอน จนบัดนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมวัตถุดิบอาหารของชิลีนี้ไม่อาละวาดไปทั่วโลกทั้งๆที่เด็ดขนาดนี้ ไม่นับไวน์ชิลีขึ้นชื่อที่เรารู้จักกันดี และราคาถูกมากอย่างเหลือเชื่อ
แต่ละที่ที่ได้ไปเยือนฉันต้องอุทานว่าเหมือนได้ไปสวรรค์แท้ๆ สวยโรแมนติกและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดี โดยที่ไม่ได้ตั้งตัวคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเยี่ยมขนาดนี้ เหมือนดังว่าสวรรค์น้อยๆนี้ถูกเก็บซ่อนเป็นความลับไว้อย่างเจตนาใต้ฟ้าขั้วโลกใต้ ให้คนจำนวนนิดเดียวเท่านั้นที่โชคดีมีโอกาสไปเยือน ส่วนฉัน… เมื่อค้นพบแล้วว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน จึงขอกลับไปและกลับไปอีก แม้ขณะที่กำลังเตรียมพิมพ์หนังสือชิลีอยู่นี้ ฉันก็เพิ่งซื้อตั๋วเตรียมกลับไปชิลีอีกเป็นครั้งที่สี่ ไม่น่าเชื่อว่าตื่นเช้าขึ้นมาพบกับข่าวแผ่นดินไหวร้ายแรงถึงระดับ 8.8 ใกล้กับกรุงซานติอาโก คนตายเจ็ดร้อยกว่าคนแค่ในวันแรก เป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงเกือบที่สุดในประวัติศาสตร์ ซานติอาโกไม่เสียหายมากนักแต่สนามบินก็ปิดไปหลายวัน แต่ด้วยใจรักจริงและความที่ไม่เคยกลัวอะไร สามสัปดาห์หลังเหตุการณ์รุนแรงนั้น ฉันก็บินปร๋อไปนอนเล่นเสวยสุขที่ซานติอาโกอีกครั้ง ทั้งๆที่คณะร่วมทางยกเลิกกันหมด ฉันพบว่าชิลีมีศักยภาพในการดูแลตัวเองได้อย่างดีโดยที่ไม่ต้องพึ่งใคร บ้านเมืองเป็นปกติทุกอย่าง ผู้คนไม่มีท่าทีหวั่นไหวหวาดกลัว แม้จะมีความเสียหายให้เห็นในเมือง และสนามบินก็ใช้การได้แค่บางส่วน ความมั่นใจน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างราบรื่นไม่โกลาหล
สวรรค์น้อยๆนี้ยังสวยงามอยู่เหมือนเดิม และถึงแม้จะอยู่ถึงขั้วโลกใต้ สวรรค์นี้ก็อยู่ใกล้แค่ใต้ฟ้าเดียวกันเท่านั้นเอง
ฟ้า บุณยะรัตเวช
28 มีนาคม 2553
สั่งซื้อหนังสือที่ mail2fah@gmail.com หรือ ที่ Facebook