เมืองเล็กน่ารักอีกเมืองของฝรั่งเศส อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในแถบเทือกเขาแอลป์ติดกับชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ ห่างจากเจนีวาไปทางใต้เพียง 30 กิโลเมตร จึงเหมือนเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงให้ฉันได้ไปเยี่ยมเยือนบ่อยๆ เพราะจะขับรถไปสกีในเทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศสเช่น Courchevel, Chamonix หรือ Val d’Isese ก็ต้องผ่าน หรือจะไปพักผ่อนหน้าร้อนแถว Provence หรือ Burgundy ก็ต้องผ่านอีกเช่นกัน ฉันชอบมากเพราะได้แวะไปเที่ยวอย่างง่ายๆหลายครั้ง ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ
ความน่ารักเหมือนเมืองในนิทานยุคกลาง Medieval นั้นอยู่ที่เมืองเก่า หรือ Annecy-le-Vieux หรือแปลตรงตัวว่า Old Annecy ตึกรามบ้านเรือนสร้างด้วยหินจากยุคกลาง มีทั้งแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองและมีทั้งทะเลสาบ แม่น้ำนั้นคือแม่น้ำสายสั้นจิ๋วเพียง 3.5 กิโลเมตร Thiou River ที่ไหลออกสู่ทะเลสาบ Annecy นั่นเอง ปัจจุบันทั้งสองฝั่งแม่น้ำเล็กๆน่ารักนี้และทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร สีสันเหมือนลูกกวาด บ้านเหลืองหน้าต่างเขียว บ้านเขียวหน้าตาฟ้า น่ารักน่าถ่ายรูปไปเสียทุกมุม เดินซอกแซกไปตามถนนคนเดินที่ปูด้วยหินโบราณก้อนโตๆลดเลี้ยวไปมา ชมสถาปัตยกรรมหน้าต่างประตูก็สนุกจนลืมเวลาแล้ว สมกับที่ได้ชื่อเล่นว่า Pearl of the French Alps หรือ Venice of the Alps เพราะแม่น้ำลำคลองที่ไหลผ่านเมืองนั่นเอง
แต่มุมถ่ายรูปเช็คอินช็อตเด็ดที่สุดของ Annecy คือมุมจากสะพานข้ามแม่น้ำมองมาอาคารทรงประหลาด เหมือนหัวเรือแหลมที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำ นั่นคือ Palais de l’Isle ซึ่งเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เคยใช้งานเป็นหลายอย่างในอดีต ทั้งออฟฟิศบริหารของเมืองเจนีวาสมัยก่อน ศาล โรงกษาปณ์ คุก และปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ แต่เปิดให้เข้าแค่สัปดาห์ละไม่กี่วันในช่วงฤดูร้อน และได้ขึ้นทะเบียนเป็นอาคารอนุรักษ์ ต้องบอกว่าเป็นอาคารและมุมสวยงามที่มาแล้วต้องมาแย่งกันถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวอื่นๆอย่างไม่ควรลังเล
สองฝั่งแม่น้ำนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารเรียงราย หน้าร้อนคนนั่งกันเต็ม คึกคึกมีชีวิตชีวามาก มีสะพานจิ๋วๆเชื่อมระหว่างสองฝั่งเป็นระยะๆ ฉันชอบเดินซิกแซกไปมาสำรวจ บางวันก็มีตลาดสดที่ชาวบ้านเอาของกินพวกผักผลไม้ เครื่องเทศ แยมทำเองหรือของทำมือต่างๆมาตั้งแผงขายด้วย น่ารักมากๆ เคยได้ยินว่าตลาดวันอาทิตย์ที่นี่นับเป็นตลาดที่ดีอันดับต้นๆของฝรั่งเศสทีเดียว
สถานที่น่าเยี่ยมชมอีกแห่งของ Annecy คือ The Château d’Annecy หรือ Annecy Castle ปราสาทโบราณจากยุคกลางที่เคยเป็นบ้านของท่านเค้านท์เจนีวาผู้ปกครอง ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์มีทั้งงานศิลปะร่วมสมัย ภาพวาด และรูปปั้น
นอกจากนี้ในเมืองยังมีโบสถ์อีกหลายแห่งที่น่าเยี่ยมชมหากมีเวลา ฉันยังไม่ได้เข้าไปสักที ได้เข้าไปแค่โบสถ์ Église Saint-François de Sales ซึ่งอยู่กลางเมืองไม่ไกลจาก Palais de l’Isle แต่จดเอาไว้แล้วว่าคราวหน้าต้องทะยอยเก็บ ทั้งวิหาร The Cathedral of Saint-Pierre และ The bishop’s palace ที่อยู่ติดกัน โบสถ์สไตล์โกธิค The church of Saint-Maurice และ Basilique de la Visitation ที่อยู่ชานเมืองออกไป
เดินเที่ยวในเมืองเก็บอารมณ์ประวัติศาสตร์แล้ว ทีนี้ก็ต้องเปลี่ยนไปธรรมชาติบ้าง ทะเลสาบ Annecy นั้นก็ขึ้นชื่อเรื่องความงาม เดินจากเมืองเก่าเข้าไปสวนสาธารณะ Jardins de l’Europe ซึ่งติดทะเลสาบ ชมคนเมืองมาเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย เล่นเรือ หน้าร้อนสามารถเช่าเรือออกไปพายได้ ตรงปลายสวนที่ติดกับทะเลสาบมีสะพานชื่อ Pont des Amours หรือสะพานคู่รัก Love Bridge นั่นเอง ว่ากันว่าหากคู่รักใดได้มาจุมพิตกันบนสะพานนี้ก็จะได้ครองคู่อยู่ด้วยกันตลอดไป
Annecy เมืองเล็กที่เล็กแค่ขนาด แต่เสน่ห์อัดแน่น เป็นอีกหนึ่งในเมืองเล็กฝรั่งเศสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
