ใครๆมาเที่ยวเมืองลูเซิร์นก็มักจะแค่ไปชมรูปปั้นสิงโต เดินเมืองเก่า อย่างเก่งก็ล่องเรือในทะเลสาบ หรืออย่างเก่งมากคือที่ขอขึ้นเขาไปชมวิวด้วย ก็จะไปกันแค่เขา Pilatus หรือ Riki ซึ่งเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของทัวร์ขั้นแอดวานซ์ ขึ้นกระเช้าหรือรถไฟไปเพื่อถ่ายรูปแล้วก็ลงมา ส่วนฉันขอมุ่งมั่นในการเสนอทางเลือกการเดินเขาสำหรับคนที่อยากเที่ยวสวิตฯอย่างคนอยู่สวิสต่อไป

ในเขตเมืองลูเซิร์นมีที่เดินเขาชมวิวที่สวยมาก เดินไม่ยาก และขึ้นชื่อขนาดคนสำคัญหลายคนของโลกรวมทั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเคยไปหรือเคยเสด็จไปมาแล้ว นั่นก็คือเขา Bürgenstock ความพิเศษของเส้นทางเดินเขานี้ก็คือ มีทางเดินที่เห็นวิวทะเลสาบลูเซิร์นจากมุมสูงที่สวยมากๆ และยังมีลิฟท์ Hammetschwand ซึ่งเป็นลิฟท์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก และเป็นสิ่งที่ชาวสวิสภูมิใจในวิศวกรรมของเขามาก (อย่าลืมว่าลิฟท์ดังยี่ห้อ Schindler เป็นของประเทศสวิตเซอร์แลนด์)

การเดินทางไปจุดเริ่มต้นเดินเขานี้อธิบายกันไม่ง่าย โดยเฉพาะหากไปโดยประจำทาง เพราะทางเดินเข้าป่ามีได้หลายทาง แต่หากขับรถไปก็ให้ตั้งจุดหมายไว้ที่เมือง Ennetbürgen หาลานที่จอดรถสาธารณะซึ่งเสาร์อาทิตย์ที่อากาศดีจะมีคนมาจอดรถเพื่อเดินขึ้นเขากันมากมาย มองหาดูป้ายไม่ยาก อยู่ไม่ไกลโรงแรมดัง Villa Honegg ถ้าหาไม่เจอจริงๆก็เอาเป็นว่าเริ่มเดินจากโรงแรมนี้ก็แล้วกัน จากนั้นมองอ่านป้ายสีเหลืองที่ชี้หมายให้ไปลิฟท์ ทางเดินไปลิฟท์เริ่มได้จากสองทาง ควรจะเดินจากทางตะวันออกไปทางตะวันตก

จากที่จอดรถเดินเข้าป่าไปเป็นการขึ้นเนินสูงตลอด ก็จะเหนื่อยหน่อยช่วงแรก แต่พอถึงในป่าที่เลาะไปตามผาสูงแล้วก็ไม่ยาก ทางจะเรียบเป็นดิน และมีบางช่วงให้เริ่มเห็นวิวทะเลสาบด้านล่างชวนตื่นตาตื่นใจแล้ว วันที่แดดดีน้ำจะเป็นสีฟ้าสวยมากๆ ทะเลสาบลูเชิร์นนี้มีรูปร่างยึกยือโค้งเว้าเข้าไปในแผ่นดินเยอะมาก จึงมีเมืองต่างๆริมทะเลสาบมากมายที่ได้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่งดงามไปด้วยน้ำสีฟ้าหญ้าสีเขียวนี้ ระหว่างทางเดินเลียบติดหน้าผาเขามองลงไปเห็นวิวทะเลสาบลูเซิร์นและเมืองต่างๆเหล่านี้สวยงามมาก ลืมความเหนื่อยไปเลย ไม่น่าเชื่อว่าคนสวิสสร้างทางเดินนี้มาเมื่อ 100 กว่าปีแล้ว เป็นทางที่เกาะไปตามหน้าผาของเขาหิน บางช่วงก็เจาะทะลวงหินเป็นถ้ำเข้าไป ในถ้ำมีช่องเจาะเป็นหน้าต่างให้ชมวิว สวยขาดใจ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

จากที่จอดรถเดินมาราว 45 นาทีก็ถึงจุดขึ้นลิฟท์ อันนี้ต้องจ่ายเงินค่าขึ้น ตรงจุดนั้นมีโป๊สเตอร์เล่าประวัติของลิฟท์ว่าคนดังๆของโลกได้มาขึ้นลิฟท์นี้หมดแล้วเช่นเยาวะหราล เนรู อินทิรา คานธี รวมทั้งออเดรย์เฮปเบิร์นผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์หลายปีจนช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่ไม่ยักมีพูดถึงว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ห้าก็เคยประพาสมาที่นี่แล้วขึ้นลิฟท์นี้ด้วย แต่ในพระราชนิพนธ์ไกลบ้านทรงกล่าวถึงที่นี่ไว้

ลิฟท์นี้ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีฉันก็พาเราขึ้นไปถึงจุดสูงสุดบนยอดเขา มันค่อยๆพุ่งขึ้นสูง จากส่วนที่เป็นอาคารที่สร้างเจาะไว้ในหินก็ค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมา มองจากลิฟท์แก้วออกไปเห็นวิวโล่งรอบด้านสุดสายตา มันวิ่งขึ้นๆสูงเรื่อยๆ เด็ดมาก พอลิฟท์เปิดออกมาก็เห็นว่ามันเป็นลิฟท์ที่สร้างยื่นออกไปด้านนอกพื้นดิน สูงปรี๊ด มีสะพานให้เดินเข้ามาบนพื้นด้านในบนยอดเขา และเมื่อออกไปก็จะเห็นว่าอาคารลิฟท์นั้นเป็นแท่งประหนึ่งหอคอยสูงยื่นออกไป เด็ดมาก (วีดีโอ)

บนยอดเขานี้มีร้านอาหารที่มีระเบียงเปิดโล่งให้ชมวิว เราเดินไต่ขึ้นมาเหนื่อยเลยขอหยุดพักดื่มโพรเซคโก้และเบียร์เย็นๆเพิ่มพลังก่อนจะเริ่มจะเดินต่อ ซึ่งเราเลือกที่จะไม่ลงลิฟท์กลับลงไป แต่จะเดินไต่เขากลับลงไปจนถึงที่จอดรถเลย ใช้เวลา ประมาณชั่วโมงครึ่ง ทางเดินในเขาร่มรื่นไม่ร้อนเลย หอมกลิ่นป่าสดชื่นมาก แต่ทางที่ลาดลงมากก็ทำให้เหนื่อยพอสมควร  เหงื่อออกเต็มตัวใช้ได้ทีเดียว

พอลงมาเกือบถึงด้านล่างก็มีกลุ่มอาคารใหญ่โตมากมายที่กำลังก่อสร้างอยู่ นั่นคือโรงแรมและศูนย์สุขภาพใหญ่มากที่จะเปิดต้นปี 2018 นี้ ที่สวิตฯไม่ค่อยมีโรงแรมใหญ่ยักษ์แบบนี้ มักจะเป็นที่เล็กๆน่ารักคุณภาพเลิศ พอมาเห็นเมกะโปรเจ็คแบบนี้เลยอดเดินสำรวจดูไม่ได้ ในโครงการมีโรงแรมหลายตึก มีสปา มีตึกที่เป็นอพาร์ตเม้นต์ขายด้วย เสร็จแล้วต้องขอกลับไปใช้บริการดูเสียหน่อย ท่าทางจะอร่อยและได้ชมวิวจนอิ่มไปด้วย

นอกจากโรงแรมใหม่นี้ยังมีโรงแรมเก่าอื่นๆและร้านอาหาร อพาร์ตเม้นต์ที่มีอยู่ก่อนแล้วในบริเวณ เราเดินเลาะผ่านหมู่บ้านนี้ลงมาตามถนนที่รถวิ่งอันนี้ไม่สนุกเท่าไหร่เพราะเดินบนคอนกรีตร้อนๆไม่ได้เดินชมป่าอย่างช่วงแรก

พอลงมาถึงรถที่จอดเอาไว้จึงขอเปลี่ยนชุดเดินป่าเป็นกระโปรงให้ดูดีนิด เพื่อให้รางวัลตัวเองเล็กน้อยหลังจากเดินมาจนเมื่อยหลายชั่วโมง แล้วเราก็เดินไปโรงแรม Villa Honegg วันนี้เราจะดื่มและทานอาหารเย็นกันที่โรงแรมสวยแห่งนี้

Villa Honegg เป็นโรงแรมห้าดาวขนาดเล็กที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวสวยและอาหารอร่อย และยังมีสปาที่ขึ้นชื่อด้วย เรานั่งโต๊ะที่ระเบียงโล่งกว้างด้านนอกใต้ร่มใหญ่สีขาว ชมวิวทิวเขาสีเขียวสลับทับซ้อนโอบล้อมกอดทะเลสาบเอาไว้ ยอดเขาไกลๆมีหิมะขาวๆอยู่บ้างแม้จะเป็นหน้าร้อน โอย สวยขาดใจ และต่ำจากระเบียงร้านอาหารลงไปนิดเป็นส่วนของสวนและสระว่ายน้ำของโรงแรมที่ให้เฉพาะแขกที่พักใช้ สระแบบไร้ขอบ เห็นแขกที่พักแช่น้ำเกาะขอบเหม่อมองชมวิว อิจฉามากๆ วิวที่เราเห็นก็สุดๆอยู่แล้ว ถ้าลงไปแช่ในสระคงยิ่งสุดๆกว่า โรแมนติกมากๆๆๆ เอาไว้คงต้องมาเช็คอินที่นี่ดูบ้าง แต่วันนั้นนั่งทานอาหารดื่มชิลล์ๆชมวิวไปจนพระอาทิตย์ตกก็สุดยอดแล้ว แบบนี้ให้เดินป่าเหนื่อยกว่านี้ก็ยอม

ถ้าใครไปลูเซิร์นแล้วไม่อยากเที่ยวแบบเดิมๆ ไปสถานที่เดิมๆ แต่อยากเที่ยวแบบคนสวิส ลองมาชมวิวเดินเขาที่ Bürgenstock ขึ้นลิฟท์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก และจบวันด้วยวิวเด็ดและมื้อเย็นที่ Villa Honegg แบบไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะหรือทัวร์ลงจนมองไม่เห็นวิว ต้องตามรอยเดินป่าเหนือฟ้าเส้นทางนี้เลยค่ะ

2 COMMENTS

  1. ค่าขึ้นลิฟท์ กี่ ฟรังก์สวิส ครับ

    • ไม่แพงค่ะ ประมาณขาเดียว 10 สองขา 13 ฟรังก์ ถ้าซื้อเป็นกลุ่มก็ถูกลงด้วยค่ะ

Comments are closed.