ลอนดอนเคยเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 เพราะสำนักงานใหญ่บริษัทเก่าอยู่ที่นี่ จึงต้องมาประชุมบ่อยมากๆ แต่เวลาเดินทางทำงานจริงมันไม่น่าสนุกอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะมันเหนื่อย และเครียด เครื่องลงปุ๊บก็พุ่งเข้าที่ประชุม ประชุมๆๆๆติดกันทุกวัน เสร็จปุ๊บก็พุ่งตรงไปสนามบินเพราะอยากจะกลับบ้านแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องตลกที่แม้ฉันจะเข้าออกอังกฤษมาแล้วหลายสิบเที่ยว แต่ก็มีหลายสถานที่เที่ยวดังๆที่ไม่เคยไปเลย คนที่ไปเที่ยวอังกฤษครั้งเดียวอาจจะได้ไปชมมามากเมืองกว่าฉันด้วยมั๊ง

มาธุระลอนดอนครั้งนี้จึงตั้งใจว่าจะเก็บเวลาไว้หนึ่งวันเต็ม เพื่อไปชม Cotswolds ชานเมืองอังกฤษที่มีเมืองน่ารักๆขึ้นชื่อหลายเมือง และยังอยู่ไม่ไกลลอนดอนเลย สามารถขับรถเที่ยวได้ในวันเดียว จึงจัดการจองรถเช่าและวางแผนเส้นทางการขับรถโดยทันใด และนี่คือเมืองเล็กน่ารักตามเส้นทางการสำรวจแบบจบในหนึ่งวันที่ Cotswolds

จากลอนดอน เมืองแรกที่ขับรถมาเพียงหนึ่งชั่วโมงถึง เป็นเมืองหน้าด่านของ Cotswolds คือ Burford เมืองเล็กๆแต่น่ารัก มีร้านรวงสองฝั่งถนน จอดแล้วเดินชมได้เลย แค่นี้ก็ใจเต้นแล้ว มันน่ารักแบบอังกริ๊ดอังกฤษ

เมืองนี้มีโบสถ์โบราณอายุเกือบพันปี สร้างด้วยหินก้อนโตๆ ด้านหน้ามีหลุมศพโบราณใหญ่ ผ่านลมฝน ผ่านการปฏิรูปศาสนาและเวลามานานแต่ยังรอดมาได้ในสภาพดีอยู่ ในโบสถ์มีนาฬิกาโบราณที่มีกลไกพิเศษและมีโครงกระดูกพร้อมเรื่องราวในอ่าน อันนี้ให้ไว้ไปอ่านเอง

เบอร์ฟอร์ดใช้เวลาชมไม่ต้องนาน จากนั้นขับรถต่อไปยังเมืองที่ได้ยินมาว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่น่ารักที่สุดในอังกฤษ Bourton-on-the-water เห็นแล้วต้องบอกว่าน่ารักจริงๆ ช่างเหมือนหมู่บ้านในนิทาน มีสะพานจิ๋วๆข้ามแม่น้ำสายจิ๋วตลอดทั้งหมู่บ้าน สองฝั่งเต็มไปด้วยตึกหินน่ารักที่กลายมาเป็นผับ tea room ร้านอาหาร โรงแรม เบเกอรี่ และร้านค้า ในน้ำมีเป็ดว่ายน้ำไปมา น่ารักจนบรรยายไม่ถูก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด เราเลยใช้เวลาที่นี่นานๆ

เลือกร้านอาหารทานกลางวัน เราลองร้าน The Croft ตรงริมทางเลียบคลองที่หัวมุม ต้องบอกว่าใช้ได้เลยทีเดียว เป็นอาหารอังกฤษแบบสไตล์ผับ เราสั่งพายเนื้อ ฟิชแอนด์ชิป และตบท้ายด้วยขนม Sticky Toffee Pudding ทุกจานอังกฤษแท้มาตรฐานถูกใจมาก ที่เมืองนี้ยังมีหมู่บ้านจำลอง The Model Village เป็นบ้านและตึกรามแบบ Cotswolds ให้เราเข้าไปเดินชมได้ด้วย

จากนั้นขับรถต่อไป Bibury แค่ 20 ก็ถึง ทางระหว่างหมู่บ้านเป็นทางแบบชนบทอังกฤษ มีแต่ป่า ทุ่งหญ้า ถนนสายเล็ก ได้อารมณ์มาก เขาว่าทางบางช่วงเป็นถนนโบราณตั้งแต่สมัยโรมันด้วย

พอถึงหมู่บ้านจอดรถแล้วเราก็เดินไปสู่จุดหมายแรก จุดท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษ Arlington Row  อันโด่งดัง เป็นบ้านหินโบราณที่เรียงติดกันเป็นแถวไม่กี่หลัง สร้างขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษที่ 14 เดิมใช้เป็นโรงที่ตากใยขนสัตว์แล้วต่อมาปรับเป็นบ้านที่อยู่ของคนทอผ้าขนสัตว์ในศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันเป็นบ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริงเวลาเราไปเยี่ยมชมจึงต้องถ่ายรูปแบบระวังเกรงใจเจ้าของบ้านนิดนึง

หมู่บ้าน Bibury เล็กๆนี้มีพลเมืองเพลงแค่ 600 กว่าคน ความน่ารักของหมู่บ้านเล็กในชนบทนี้ทำให้เป็นฉากในภาพยนตร์ต่างๆหลายเรื่อง นอกจากในส่วนอาร์ลิงตั้นโรว์นี้แล้ว ในตัวหมู่บ้านบิ๊บบุรี่นี้ก็ก่อด้วยหินโบราณในรูปแบบเดียวกัน เราสามารถเดินวนไปตามถนนและทางที่เลาะชายป่าชมดูได้แต่ก็ต้องระวังเช่นกันค่ะเพราะเป็นบ้านที่คนเค้าอาศัยอยู่จริงๆ

หลายคนบอกว่านี่คือหมู่บ้านที่น่ารักที่สุดในประเทศอังกฤษ แต่ฉันว่า Bourton-on-the-water น่ารักกว่าเยอะ แต่อันที่จริงแล้วในเขต Cotswolds นี้ก็เป็นชนบทของอังกฤษที่มีหมู่บ้านน่ารักมากๆให้เที่ยวชมมากมายทั้งเขตเลย เช่ารถจากลอนดอนขับไปแวะไปสบายๆ

เมืองสุดท้ายที่เราแวะคือ Cirencester เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของ Cotswolds มีโบสถ์แบบโกธิคใหญ่เด่นเป็นสง่า สมัยโบราณเคยเป็นเมืองสำคัญของโรมัน จึงยังมีซากอัฒจันทร์แสดงละครกลางแจ้งแบบโรมันให้เห็นอยู่

ตรงสวนสาธารณะประจำเมือง Cirencester Park มีกำแพงพุ่มไม้ตัดแต่งเป็นโพรงช่องให้เดินมุดเล่น เหมือนวิ่งเล่นในเขาวงกตแบบนิทานฝรั่ง น่ารักดี เมืองนี้ยังมีมหาวิทยาลัยและโรงแรม ร้านอาหารมากกว่าที่หมู่บ้านอื่นๆด้วย

เย็นแล้วเราจึงขอจบทริปขับรถสำรวจ Cotswolds ในหนึ่งวันเพียงเท่านี้ ขับวนกลับลอนดอนอีกทาง ไม่ทับกับเส้นทางขามา  ถ้ามีเวลาคงได้แวะอีกหลายหมู่บ้าน เช่น Tetbury Bampton Rissingtons Chipping Camden ล้วนแต่ได้ยินมาว่าน่ารักเช่นกัน ไม่เป็นไรเก็บไว้คราวหน้าแล้วกัน จะได้หาเรื่องมาอีก

ไหนๆเขียนเรื่องเที่ยวอังกฤษแล้ว (นานๆจะเขียนเกี่ยวกับอังกฤษเสียที) ขอแถมด้วยเรื่องอาหารอังกฤษเสียเลย เพราะอันนี้ของชอบ

Roast beef and Yorkshire pudding

สมัยฉันไปประเทศอังกฤษครั้งแรกเมื่อ 30 ปีที่แล้วนั้น ใครๆทั้งโลกก็พูดกันว่าอาหารอังกฤษไม่อร่อยที่สุด ฉันไปเรียนหนังสือภาคฤดูร้อนที่นั่นเกือบสามเดือน แม้จะเป็นเด็กแต่ก็รู้สึกว่าไม่เห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าวเลย ไปไหนก็กินบรรดาพายต่างๆได้อย่างเอร็ดอร่อยตลอดเวลา เช่น steak and kidney pie, Shepherd pie ยิ่งวันไหนได้กิน Sunday roast ไม่ว่าจะเป็น roast beef, roast lamb ที่ชอบที่สุดคือกินกับ Yorkshire pudding ราดน้ำเกรวี่เยอะๆ กินกับ peas อร่อยมากๆ สรุปคือบรรดาตระกูลพวกแป้งพายทั้งหลายชอบหมด รวมไปถึง Toad in the hole แป้งพายอบที่มีไส้กรอกฝังซ่อนเอาไว้ Sausage roll ชื่อฟังดูธรรมดาแต่จริงๆคือเนื้อบดปรุงรสอร่อยแล้วห่อด้วยแป้งพายอบ ออกมาร้อนๆอร่อยมาก ส่วน Fish and chips นี้ถึงแม้จะเป็นคนไม่ชอบทานมันฝรั่งเลยแต่ก็ชอบทานปลาทอดของเขาที่สุด ก็จะเลือกสั่งเอาแต่ปลา พูดถึง chips หรือมันฝรั่งทอดนี้คนอังกฤษจะใช้จิ้มน้ำส้มสายชูกิน ไม่เหมือนกับที่คนอเมริกันจิ้มซอสมะเขือเทศหรือคนเบลเยียมจิ้มมายองเนส

อาหารเช้าแบบอังกฤษนี่ก็ชอบที่สุด คือเต็มที่ทั้งเห็ดทอด มะเขือเทศนาบกับกระทะ (ถั่วขาวอบในซอสมะเขือเทศอันนี้ไม่ชอบค่ะ) เบคอนมันน้อยเพราะเป็น back bacon และที่ชอบที่สุดและเพื่อนอังกฤษส่ายหัวว่าชอบอะไรช่างแลดูบ้านๆเหลือเกินก็คือไส้กรอกอังกฤษที่เรียกว่า English banger และนานๆทีก็จะอยากทานไส้กรอกเลือดสีดำๆหรือเข้าโอ๊ตต้ม porridge ซึ่งจะอิ่มจุกไปทั้งวัน

ส่วนขนมอังกฤษที่ชอบนั้นมีมากมายจาระไนไม่หมด ล้วนแต่อ้วนๆทั้งนั้นเช่น Bread and butter pudding กับ Trifle ซึ่งทำง่ายและทำกินเองบ่อยจึงไม่ค่อยเดือดร้อนมาก แต่ที่ทำเองไม่ได้และไปอังกฤษทีไรจะต้องกินตุนไว้เยอะๆทุกทีก็คือ Sticky Toffee Pudding อันนี้บางคนว่าหวานแสบไส้แต่เวลาทานกับคัสตาร์ดร้อนๆก็ตัดหวานได้ดี แล้วยังมี spotted dick (ชื่อน่าจักจี้) และ Summer pudding ที่รวมลูกเบอร์รี่ต่างๆเอาไว้มากมายกับขนมปังทานแล้วสดชื่นมาก ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือบรรดาขนมน้ำชายามบ่ายทั้งหลายเช่น cucumber sandwich และแน่นอน scone ที่ทานกับเนยแยมและ clotted cream คือไม่อ้วนก็ไม่รู้จะอย่างไรแล้วล่ะค่ะ จำได้ว่าตอนเด็กอยู่อังกฤษสามเดือนกลับมาบ้านด้วยน้ำหนักที่ขึ้นมาหลายกิโล

Sticky toffee pudding

เดี๋ยวนี้เวลาผ่านไป ช่วง 10 กว่าปีมานี้อังกฤษกลายเป็นประเทศที่ล้ำหน้าชาวบ้านไปมากเรื่องอาหารการกิน มีเชฟชื่อดังออกมาสร้างสรรค์เมนูและทำรายการทีวีเยอะแยะ เหมือนกับโลกลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยประณามว่าอาหารอังกฤษนั้นไม่ได้เรื่อง และช่วงหลังนี้ยังมีร้านอาหารประเภทใหม่เกิดขึ้นที่เรียกว่า gastropub มันก็คือผับแบบอังกฤษดั้งเดิมที่พัฒนาปรับมาขายอาหารที่ร่วมสมัยขึ้น รสชาติดีและประดิดประดอยทั้งในแง่รสชาติ การเลือกเครื่องปรุง และการตกแต่ง ทำให้เกิดวัฒนธรรมการกินอาหารแบบใหม่ขึ้น ที่เรียบง่ายดั้งเดิมในบรรยากาศแต่ในส่วนของอาหารนั้นทันสมัยและอร่อยมากทีเดียว เดี๋ยวนี้เวลากลับไปอังกฤษทุกครั้งจึงจะต้องไปกินอาหารอร่อยตาม gastropub นอกจากจะได้กินพายอร่อยต่างๆแล้วยังได้กินค็อกเทลผสมเหล้าแบบอังกฤษแท้เช่น Pimm’s หรือ Sloe gin ด้วย

ปล. เรื่องอาหารอังกฤษนี่คุยได้อีกยาวและมีโพยกินเพียบ ร้านอาหารจีนฮ่องกงที่อังกฤษนี่ก็สุดยอด แต่จะบอกว่าส่วนตัวคิดว่าร้านชื่อดังที่คนไทยชอบไม่ได้อร่อยขนาดนั้นนะคะ

NO COMMENTS