ชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์ตอนหน้าร้อนมันก็ต้องเดินเขา ทุกวันอาทิตย์ฉันต้องหาโปรแกรมสำหรับที่เดินใหม่ๆ หาวิวที่ไม่เคยเห็น และกิจกรรมพ่วงที่ต่างๆกันไป ขึ้นกับโจทย์ของแต่ละอาทิตย์ สำหรับการเดินเขาชมวิวบนโจทย์ของครอบครัวที่มีเด็กหลายคน ต้องไปที่นี่เลย Klewenalp-Stockhütte และพ่วงด้วยการว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบลูเซิร์นที่ Beckenried

สำหรับรายละเอียดของโจทย์ที่มีเด็กอายุ10 ขวบไปด้วยสามคนมีดังนี้
1. ขับรถไปไม่เกิน 1 ชั่วโมงจากบ้าน (ไม่อย่างนั้นเด็กจะเบื่อ)
2. เส้นทางการเดินต้องไม่ยากเกินไปจนเด็กเหนื่อยและงอแง แต่ก็ต้องไม่ง่ายเกินไปจนเด็กเบื่อ
3. ต้องมีจุดพักทานอาหารกลางวันและไอศครีมในจังหวะที่เด็กเริ่มเหนื่อยพอดี
4. ต้องมีเครื่องเล่นสารพัดอยู่บนเขาให้เด็กไปกระโดดเล่นปีนป่ายและเล่นกันเองได้
5. ต้องมีกิจกรรมอื่นเป็นของแถมหลังจากการเดินเขา เพื่อให้เด็กมีเป้าหมายในการจดจ่อรอเพื่อเป็นกำลังใจในการเดิน
6. เส้นทางยังต้องมีความน่าสนใจเข้าข่ายเที่ยวแบบเหนือฟ้า (อันนี้ไม่อย่างนั้นฉันจะเบื่อ)

เราจึงมาจบลงตัวที่เส้นทางการเดินจาก Klewenalp-Stockhütte วนมาจบที่ Emmetten บริเวณทะเลสาบลูเซิร์น

เราขับรถไปถึงที่ Klewenalp จุดขึ้นกระเช้าประมาณ 10 โมงครึ่ง มีครอบครัวพาเด็กๆมาเข้าคิวขึ้นเขากันเต็มเลยเพราะวันนี้แดดและอากาศดี แถมข้างบนยังเป็นจุดที่นักกีฬา paragliding มาร่อนร่มกันด้วย จึงมีนักกีฬาแบกถุงร่มใหญ่ๆมาเข้าคิวกันอีกหลายคน ทำให้คิวยาวเป็นพิเศษ ต้องรอขึ้นกระเช้าเกือบ 1 ชั่วโมง สำหรับตั๋วขึ้นกระเช้านี้เราซื้อเป็นเส้นทางขึ้นอย่างเดียวจาก Klewenalp ไปลงที่ Stockhütte และรวมตั๋วรถเมล์จาก Emmetten แล่นย้อนกลับมา Beckenried ด้วย เพราะเราจอดรถทิ้งไว้ที่นี่ ราคาสำหรับผู้ใหญ่โดยใช้ตั๋วลดครึ่งราคาคือ 22.40 สวิสฟรังก์ ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 15 ก็ราคานี้

วิวจากรถกระเช้ามองลงมาด้านล่างเห็นหมู่บ้าน Klewenalp และทะเลสาบลูเซิร์นสวยมาก เรานั่งขึ้นไปไม่นานก็ถึง Stockhütte ตรงนี้มีโรงแรมใหญ่และร้านอาหารสนามเด็กเล่น แลดูเป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมหลายอย่างเพราะบริเวณนี้ยามหน้าหนาวก็เป็นลานเล่นสกี จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เราเริ่มเดินกันจากจุดนี้ตามป้ายสีเหลืองชี้ไป Emmetten มีโบสถ์เล็กๆอยู่ข้างบนซึ่งกำลังมีการทำพิธีมิสซาวันอาทิตย์กันพอดี และมีการร้อง Yodel แบบสวิสพร้อมเป่าเขา Alphorn ด้วย คนนั่งตากแดดทั้งร่วมพิธีและฟังเพลงกันเต็ม เห็นแล้วก็ขำที่ว่าคนต่างชาติมักจะพูดว่า วันอาทิตย์เมืองในสวิสเซอร์แลนด์ตายสนิทไม่มีคนเลย แต่ลองขึ้นมาดูบนเขาสิ มากองกระจุกกันอยู่บนนี้เอง

เส้นทางเดินไม่ยากเลย ช่วงแรกเป็นทางราบโล่ง วิวเปิดเห็นภูเขาสวยงามสดชื่น มีวัวเล็มกินหญ้า เสียงกระดึงวัวก๊องแก๊งๆชอบมากๆเลย มีน้องวัวตัวหนึ่งคงจะหิวน้ำ น้ำในอ่างน้ำกินแห้งหมดแล้วนางก็ยังพยายามจะเลีย เราจึงเทน้ำลงไปให้ พอได้น้ำแล้วนางเงยหน้าขึ้นมาแยกเขี้ยวยิ้มให้ ตลกจริงๆ

เดินไปสักพักจึงเข้าไปในป่า วิวก็จะเปลี่ยนไปสวยอีกแบบหนึ่ง ร่มเย็นมากขึ้น ในป่านี้มีคนสวิสมาซ้อมยิงธนูกันด้วย เขาทำป้ายอธิบายว่า ในป่ามีหุ่นตุ๊กตารูปสัตว์ต่างๆซ่อนเอาไว้ ให้มองหาแล้วซ้อมยิง เช่นหุ่นเต่า หุ่นนก น่าสนุกจังเลยได้ยิงธนูล่าสัตว์โดยที่ไม่ต้องฆ่าสัตว์จริง

เดินมาได้ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงร้านอาหารที่เราตั้งใจจะแวะทานข้าวกลางวัน หน้าหนาวร้านนี้ก็เป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟบนเนินสกี แต่ตอนนี้หน้าร้อนคนก็นั่งตากแดดกันเต็มระเบียงด้านนอก และมีเครื่องเล่นให้เด็กๆเล่นด้วย อาหารก็เป็นอาหารสวิสทานง่ายๆแบบที่เราเรียกกันว่า อาหารแบบกระท่อมภูเขา ทานเสร็จก็เดินต่อใช้เวลาอีกชั่วโมงครึ่ง คราวนี้เน้นการเดินลงเป็นหลัก เห็นมีคนเช่า Bikeboard คือจักรยานสามล้อแบบที่ใช้ยืนแล้วแล่นลงเขาเร็วๆลงมาด้วย แต่เราเลือกเดินเลาะเข้าไปในป่าตัดลงมาแทน จนลงมาถึงหมู่บ้าน Emmetten ด้านล่างก็จะมีรถเมล์ซึ่งพาเราแล่นกลับไป Beckenried ซึ่งเป็นท่ารถเมล์และท่าเรือริมทะเลสาบใกล้ตรงที่เราจอดรถขึ้นกระเช้าเมื่อเช้านั่นเอง

สรุปเดินไปประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งรวมพักทานข้าวกลางวันอีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ เป็นการเดินแบบครอบครัวที่ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ เป็นการพักผ่อนออกกำลังง่ายๆวันอาทิตย์ เส้นทางนี้คนมาเป็นครอบครัวเยอะทีเดียวและแทบไม่มีชาวต่างชาติเลยยกเว้นกลุ่มเรา ถามร้านอาหารดูเขาบอกว่ามีแต่คนสวิสมาเดิน ย่านนี้อยู่ไม่ไกลเมืองลูเซิร์น มีเมืองเล็กๆริมทะเลสาบหลายแห่งดูสงบสบายน่าอยู่

หลังจากที่เรานั่งรถเมล์มาถึงเมือง Backenried ริมทะเลสาบแล้ว เห็นตรงนี้มีท่าเรือและมีร้านอาหาร บรรยากาศดี เราจึงเดินๆนั่งๆชมวิวที่ท่าเรือ ให้เด็กๆเล่นน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาตรงลานสักพัก ก็เอาใจเด็กๆโดยการพาไปว่ายน้ำในทะเลสาบต่อ อย่างที่ฉันเคยพูดบ่อยๆว่า ชีวิตที่ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติที่สะอาดและบริสุทธิ์นี่คือวิถีชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว และยิ่งไม่ต้องจ่ายเงินให้ได้มานี่แหละ คือนิยามของคำว่า Luxury อย่างแท้จริง

ยิ่งช่วงหลังฉันจะพูดเน้นบ่อยว่า จริงอยู่สวิตฯเป็นประเทศที่แพงหูฉี่ไปหมดทุกสิ่งอย่าง การจะมาเที่ยวก็แพงกว่าไปประเทศอื่น แต่การเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ดีที่สุดนั้นคือการเที่ยวที่ไม่เสียเงินเลย นั่นก็คือการเดินป่าเดินเขาและว่ายน้ำในทะเลสาบและแม่น้ำของสวิตฯ ซึ่งเป็นถือเป็นการดื่มด่ำทรัพยากรธรรมชาติที่สวิตฯมี ฉันถือว่าเป็นการได้มาถึงสวิตเซอร์แลนด์อย่างแท้จริง

จากท่าเรือ Backenried เราก็เดินตามถนนเลียบทะเลสาบต่อไปถึง Badi หรือจุดสำหรับลงเล่นน้ำในทะเลสาบ ชื่อ Strandbad Beckenried ที่นี่มีสนามหญ้าเหมือนสวนสาธารณะให้จับจองที่ปูเสื่อนอนและปิกนิกกันได้ ในบริเวณมีร้านอาหารเล็กๆ สามารถซื้อน้ำและเครื่องดื่มมานอนปิ้งตากแดดดื่มกันอย่างชิลล์ๆ มีห้องน้ำและห้องเปลี่ยนชุด ที่สำคัญมีชายหาดเป็นกรวดหินให้เดินลุยลงไปว่ายน้ำเล่นได้ในทะเลสาบอย่างแสนสะดวกสบาย มีสปริงบอร์ดอย่างดีสร้างยื่นลงไปในทะเลสาบให้กระโดดเล่นน้ำได้ ฉันกระโดดสปริงบอร์ดแข่งกับเด็กๆ ดิ่งลงไปในน้ำลึกมาก พบว่าแม้แต่ด้านล่างลึกน้ำก็ยังใสกิ๊งเป็นสีฟ้าสะอาดสุดๆ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ขอบอกว่า ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ!!! มันเป็นที่สาธารณะที่สะอาดและสะดวกดีเลิศ ที่ทุกคนในสวิตฯสามารถมาบริโภคชีวิตดีๆแบบนี้ได้ นี่ไง…นิยามของ Luxury  อย่างแท้จริง สมกับคำพูดที่ Coco Chanel เคยพูดว่า “The best thing is free. The second best is very expensive.”

บอกได้คำเดียวว่าวิวร้อยล้านแต่ค่าใช้จ่ายเป็นศูนย์ นี่แหละ The Luxury of Switzerland

ป.ล. น้ำเย็นสดชื่นกำลังดี อุณหภูมิน่าจะประมาณ 24 องศาเซลเซียส ดับร้อนดีจริงๆ

NO COMMENTS