Tulum ชื่อนี้หมายมั่นปั้นมือเอาไว้นับ 10 ปีแล้วว่าจะต้องมาดูให้รู้ให้เห็นให้ได้ ก็เขาว่ามันเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลของเม็กซิโกที่เกิดใหม่ จากหาดดิบๆไม่มีอะไร กลายมาเป็นศูนย์รวมของความฮิปเก๋ชนิดที่เอลิสต์ทั้งหลายต้องมากัน
คาบสมุทร Yucatán ของประเทศเม็กซิโกนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งการตากอากาศด้วยชายหาดสายลมและแสงแดด โดยเฉพาะสำหรับคนอเมริกัน ที่คาบสมุทรนี้มีเมืองใหญ่หลักสองเมืองคือ Cancún และ Mérida ที่สามารถบินมาได้อย่างสะดวกจากเม็กซิโกซิตี้หรือจากอเมริกาหรือยุโรปเลยด้วยซ้ำ ตรงกลางระหว่างสองเมืองนี้คือที่ตั้งของ Chichen Itza หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เมือง Mérida ก็มีพิพิธภัณฑ์ที่ดีและมีอารยธรรมมายาและโคโลเนียลหลายอย่างที่น่าชมเช่นกัน ส่วนเมือง Cancún นั้นเป็นเมืองชายหาดที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักดีของคนอเมริกันมานานหลาย 10 ปี มันก็จะพัฒนาไปเยอะและวุ่นวายเป็นการค้าไปหน่อย ฉันจึงลงเครื่องที่นี่อย่างเดียวแต่ไม่ได้เฉี่ยวเข้าไปชมเลย มีความรู้สึกว่ามันจะเหมือนพัทยาภูเก็ตไปหน่อย แต่แวะไปนอนค้างสำรวจดู Playa Del Carmen มาหนึ่งคืน ซึ่งที่นี่ก็เป็นชายหาดจุดหมายสวรรค์ตากอากาศของนักท่องเที่ยวหลายคนอีกเช่นกัน มีโรงแรมห้าดาวหรูหราเยอะแยะและวุ่นวายน้อยกว่าหน่อย แต่ฉันว่ามันก็ยังเยอะเกินจริตเที่ยวเหนือฟ้าอยู่ดี ดังนั้นจุดหมายที่แท้จริงที่ฉันใช้ไว้เป็นจุดสุดท้ายเพื่อนั่งๆนอนๆปิ้งแดดพักเหนื่อยแบบเก๋ๆเอลิสต์ปิดท้ายทริปตามสูตร ก็คือชายหาด Tulum นั่นเอง
จากถนนไฮเวย์พอแล่นผ่านเข้าเมืองตูลุมก็เห็นว่าทั้งสองข้างทางมีร้านค้าร้านอาหารครึกครื้นเต็มไปหมด บรรยากาศเป็นเมืองชายทะเลมาก คนใส่ขาสั้นแขนกุดเดินลั้ลลาซื้อของหรือเอกเขนกตามร้านอาหารคาเฟ่กันเยอะมาก แต่ปรากฎว่านั่นไม่ใช่ใจกลางเมืองที่แท้จริงค่ะ เซอร์ไพรส์มากที่จากจุดนั้นต้องแล่นเข้าถนนที่มุ่งสู่ชายหาดไปอีกไกลมากเลย พอถึงหัวหาดแล้วจึงจะเป็นถนนเลียบหาดขนานชายฝั่งไป ซึ่งมันยาวมากๆ ถนนเล็กสภาพไม่ค่อยดี ฝุ่นทรายตลบอบอวล นึกถึงหาดจอมเทียนสมัยก่อน แล้วรถติดมากเพราะมีทางเข้าออกทางเดียว ฝั่งติดหาดจะเป็นบรรดาโรงแรมเรียงกันไป ส่วนฝั่งตรงข้ามถนนมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า บูติค สปา บาร์ คาเฟ่เรียงรายน่าตื่นตาตื่นใจมาก ทั้งหมดสร้างด้วยไม้ ฟาง เป็นกระท่อมหรืออาคารไม้ชั้นเดียว แลดูเป็นสีน้ำตาลดิบๆ ธรรมชาติ เหมือนกันหมดทั้งชายหาดเลย ใช่แล้วนี่แหละอารมณ์ของตูลุมที่เป็นภาพติดตาติดใจของฉัน คือมันจะเป็นชายหาดที่ดิบๆธรรมชาติๆหน่อย แต่มีความกิ๊บเก๋และหรูหราทันสมัยแทรกอยู่
และโรงแรมที่เราเลือกพักก็เป็นโรงแรมที่ฉันหมายมั่นปั้นมือเอาไว้นานแล้วเช่นกัน เพราะเป็นโรงแรมแนะนำของ Conde Naste Travellers นิตยสารโปรดที่มั่นใจได้ว่าถูกจริตแน่ คือ Be Tulum ที่มีสโลแกนว่า Bare Foot Luxury ตรงกับคำบรรยายของเมืองที่ฉันเล่ามาเป๊ะเลย ทั้งโรงแรมสร้างด้วยไม้เหมือนเปลือกไม้แผ่นใหญ่ดูดิบๆ แบ่งเป็นวิลล่าและอาคารไม้หลายหลังกระจายกันอยู่ท่ามกลางต้นไม้เขียวทึบจนแทบมองไม่เห็นอาคารเลย ทางเดินเป็นแผ่นไม้ปูไปบนทราย ทั่วทั้งโรงแรมเดินเท้าเลอะทรายไม่มีจุดว่างเว้น
ฉันจองห้องพูลวิลล่าขนาดค่อนข้างใหญ่เพราะตอนที่จองเจอโปรราคาดีเลยหลวมตัว แต่เอาเข้าจริงบอกเลยว่าขนาดลดราคาไปเยอะแล้วก็ยังแพงมาก รู้สึกไม่ค่อยคุ้ม คือถ้าเทียบกับพูลวิลล่าที่มีล้นตลาดบ้านเราแล้วราคาที่นี่นับว่าแพงอยู่ทีเดียว และเอาเข้าจริงเราก็ไม่ได้ใช้สระว่ายน้ำในบ้านเลย เนื่องจากชายหาดหน้าโรงแรมมีซุ้มศาลามากมายให้นั่งนอนอย่างสบายมาก สู้ไปนอนบนหาดทรายฟังเสียงคลื่นโกรกลมดีกว่าอยู่ในห้องเยอะเลย แถมตรงบริเวณชายหาดยังมีสระว่ายน้ำกิ๊บเก๋อีกสองสระ สรุปเลยใช้ห้องเพื่อนอนอย่างเดียว แบบนี้ซื้อห้องราคาถูกสุดก็ได้จะว่าไปแล้ว
อาหารเช้าของโรงแรมดีมาก นั่งกินที่ห้องอาหารริมชายหาด เสิร์ฟเต็มที่ตามสั่งไม่มีบุฟเฟ่ต์ให้ต้องบริการตัวเอง หรูหรามาก นั่งกินกันไปเลย 2 ชั่วโมงไม่ต้องลุกเพราะชิลล์มากๆ อารมณ์แทบจะประมาณว่าเริ่ม Happy hour กันตั้งแต่มื้อเช้ากันเลย
และในโรงแรมยังมีห้องอาหารที่มีดาวมิชลินหนึ่งดาว แต่ลองแล้วฉันว่าต้องไปซื้อดาวมาแน่ เพราะถ้าเทียบกับหลายที่ๆเคยกินมาแล้วทั่วโลกมันยังธรรมดาอยู่มาก โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ Pujol ซึ่งนับเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเม็กซิโกแล้ว Pujol ไม่มีดาวมิชลินด้วยซ้ำ
ที่ดีจนต้องชมก็คือสปาของโรงแรมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน เขามีโปรแกรมมากมายเน้นการบำบัดทั้งหลาย คือเหมือนตั้งใจให้เป็น Healing spa ฉันอยากลองพิธีกรรมของมายันโบราณที่เรียกว่า Tamazcal เป็นการอบซาวน่าร้อนพร้อมสมุนไพรและคงมีอะไรที่ดูประหลาดลึกลับอยู่ แต่บังเอิญวันที่เข้าพักไม่มีการจัดเป็นกลุ่มใหญ่ ถ้าจะใช้บริการต้องให้ทำส่วนตัวและจ่าย 500 เหรียญยูเอสซึ่งฉันว่ามันมากเกินไปเลยไม่เอาดีกว่า สรุปคือได้ใช้บริการเป็น Healing Water แทนเพราะรวมอยู่ในค่าห้องด้วยแล้ว เป็นการใช้วารีบำบัดในบ่อน้ำสองบ่อและมีห้องสตีมกับซาวน่า ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้จะเล็กเขาก็ทำได้ดีทีเดียวเลย
สรุปคือชายหาดตูลุมนี่ได้ใจพอควรทีเดียว คลื่นดี ลมดี ชายหาดขาวสะอาดสวยงาม และมีโรงแรมดีๆให้เลือกหลายแห่ง แนะนำให้เลือกโรงแรมที่มีเก้าอี้นั่งชายหาดสบายๆ มีร้านอาหารและบาร์ริมชายหาดที่ดี ส่วนห้องไม่ต้องแพงมากนักก็ได้ แต่ถ้าถามว่าดีมากกว่าชายหาดของเมืองไทยไหมก็ลังเลที่จะตอบเหมือนกัน เพราะฉันว่าชายหาดทางใต้หลายแห่งของเราก็ดีไม่แพ้กัน แถมยังจะราคาถูกกว่าด้วย ส่วนตัวเมืองตูลุมและถนนในเมืองนั้น ยังสกปรกวุ่นวายอยู่มากไม่ค่อยน่าเดินเท่าไหร่ ต้องรอดูว่าที่เห็นเขากำลังทำถนนอยู่หลายจุดนั้น จะพัฒนาไปจนสะดวกสบายอย่างไร และจะเก็บเสน่ห์ความเป็น Bare foot luxury ไว้ได้หรือไม่ หรือจะกลายเป็นตลาดแมสไปเหมือน Cancún และ Playa del Carmen อีก 4-5 ปีคงต้องกลับมาชม