ทะเลสาบสวยๆแบบแทบจะไร้ผู้คนและไร้นักท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์นี่ไม่ได้มีแต่ที่ต้องตรากตรำลำบากเดินเขาไปเท่านั้น ที่ไปไม่ยาก เดินไม่เหนื่อยนี้มีอยู่จริงแถมไม่ไกลจากซูริกมากด้วย วันนี้จะพาไปชม Crestasee ทะเลสาบขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Laax และเมือง Chur กัน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อทะเลสาบ Caumasee ที่ฉันเคยเขียนถึงไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่) Caumasee นั้นดังและเป็นที่นิยมกว่า Crestasee เยอะ เพราะมีขนาดใหญ่และมีชายหาดกว้างหลายจุดให้คนลงไปเล่นน้ำได้ไม่ต่างจากไปเที่ยวทะเลเลย มีสนามหญ้าให้นอนอาบแดดและมีสนามให้เด็กเล่นด้วย ส่วน Crestasee นั้นมีขนาดเล็กกว่า ทั้งสองทะเลสาบสามารถเดินถึงกันได้ไปตามเส้นทางในป่า เราจึงวางแผนการเดินว่า จะไปจอดรถตรงที่จอดรถใกล้ Crestasee เดินไปที่ทะเลสาบเล่นน้ำแล้วเดินวนให้ครบรอบ ก็น่าจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า จากนั้นก็เดินต่อไปอีก 1 ชั่วโมงจะถึง Il Spir ซึ่งมีร้านอาหารเด็ดที่เราตั้งใจมากินคราวที่แล้วแต่พลาดเพราะปิด ครั้งนี้เลยโทรไปจองก่อน กะว่าทานอาหารสักตอน 4 โมงครึ่ง แล้วเดินไปชมจุดชมวิวบนหอสูงที่ได้มาแล้วในครั้งก่อน แล้วเดินกลับที่จอดรถ รวมแล้วก็จะใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าเกือบ 3 ชั่วโมง โดยที่มีหยุดพักเล่นน้ำและพักทานอาหาร นับว่าเป็นการเดินแบบสบายๆอย่างยิ่ง
เราไปถึงบ่ายนิดๆ จากลานจอดรถเดินไปแค่ 20 นาทีก็แลเห็นน้ำสีฟ้าของ ทะเลสาบ Crestasee ลอดช่องว่างระหว่างใบไม้ในป่ามาให้เห็นวิบๆยั่วยวน เร่งเท้าไปดูพบว่ารอบๆทะเลสาบเป็นทางเดิน hiking แบบทางดินในป่าร่มรื่น และมีจุดที่ให้เดินลงไปเล่นน้ำในทะเลสาบได้เป็นระยะๆ น่ารักมากเลย มีฝรั่งลงไปว่ายน้ำจากท่าน้ำธรรมชาติหลายจุด แลดูเหมือนเป็นเทพยดานางไม้ที่แอบปลดเครื่องทรงเดินลงบันไดหินธรรมชาติไปแหวกว่ายสายธาราในน้ำสีฟ้า โอย อย่างกับฉากในเทพนิยาย
มีจุดหนึ่งเป็นศูนย์กลางใหญ่สุดของขอบทะเลสาบ มีซุ้มขายน้ำอาหารมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งทานดื่ม แต่ที่น่ารักมากคือเขาปรับพื้นที่ให้แลดูเหมือนเป็นชายหาด เด็กๆสามารถลงไปเล่นน้ำตรงที่น้ำตื้นได้และมีการสร้างสะพานไม้ให้เดินพาดออกไปไกลในทะเลสาบ ซึ่งคนสามารถเดินไปแล้วลงน้ำตรงจุดที่น้ำลึกกว่าได้ ต้องบอกเลยว่าสวยมากๆ น่ามาใช้เวลาอยู่ตรงนี้ทั้งวันทั้งคืนเป็นที่สุด
ไม่ขอบรรยายละ ดูรูปเลยดีกว่าเพราะไม่สามารถบรรยายให้เหมือนตาเห็นได้ เอาเป็นว่าเห็นแล้วบอกเลยว่านี่แหละคือทะเลสาบในฝันของฉัน ขนาดเล็กกระทัดรัดเดินได้โดยรอบโดยที่ทางเดินเป็นทางในป่าร่มรื่นและมีจุดให้ลงไปในน้ำได้เหมือนเป็นท่าน้ำธรรมชาติหลายจุดรอบทะเลสาบ ที่สำคัญสีน้ำสีฟ้าจัดสะท้อนแดดสวยมาก และยังมีภูเขาหินใหญ่ตระหง่านตั้งเป็นฉากหลังอีก นี่มันวิวในฝันชัดๆ ฉันเดินเขาชมทะเลสาบและเขียนเล่าให้ฟังมาก็เยอะมาก แต่ก็เพิ่งมี Crestasee นี่แหละที่อยากจะยกกลับเอาไปตั้งหน้าบ้านตัวเองเสียเลย
หลังจากลงเล่นน้ำคลายร้อนแล้วก็เดินในป่ารอบทะเลสาบ คอนเฟิร์มว่าสวยมากและเดินไม่ยาก มีน้องหมามาเดินเล่นน้ำกันหลายตัวทีเดียว จากนั้นเราก็เดินตามเส้นทางในป่ามุ่งหน้าตามป้ายไป Caumasee ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึง Il Spir ร้านอาหารที่จองไว้ชื่อ Conn เป็นร้านอาหารที่อยู่ในป่า และมาได้เฉพาะการเดินเท้ามาในป่าเท่านั้น แต่กลับเสิร์ฟอาหารแบบ fine dining เปิดเพียงแค่ปีละ 6 เดือน และปิด 6 โมงเย็นทุกวันเท่านั้น ตอนไปถึงเป็นเวลานอกมื้ออาหารคือ 4 โมงครึ่งตอนเย็น ใกล้เวลาร้านจะปิดแล้วจึงมีคนไม่เยอะ โต๊ะที่มีก็คือแค่นั่งดื่มน้ำหรือกาแฟพักเหนื่อยจากการเดินเท่านั้น
แต่เราสั่งอาหารจัดเต็มเพราะเป็นมื้อควบกล้ำระหว่างกลางวันและเย็นของเรา เมนูมีไม่เยอะแต่ว่าแต่ละอย่างน่ากินไปหมดเลือกยากจริงๆ คุณผู้ชายเลือก Ravioli ไส้ลูกแพร์ คือมันแปลกและอร่อยมาก เขาใช้ลูกแพร์มาทอดให้เกรียมๆหั่นจิ๋วแล้วค่อยใส่เข้าไปในไส้ของราวีโอรี่ชิ้นใหญ่ ทานแล้วคล้ายหอมเจียวมากแต่อร่อยกว่าเยอะทีเดียว ส่วนฉันสั่งเห็ด Porcini หรือที่ภาษาเยอรมันเรียก Steinpilz ปีนี้ฝนมาเร็วเห็ดจึงออกเยอะ ตอนนี้เราเลยมีเห็ดทานกันเยอะมากแล้ว กินอะไรก็ควรจะกินในฤดูกาลของมันจึงจะอร่อย ราคาถูกและยังลดโลกร้อนด้วย จึงสั่งเห็ดผัดโปะมาบน Polenta ง่ายๆมังสวิรัติและสุขภาพดีแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอร่อยจนไม่อยากจะพูดกับใคร เคี้ยวไปก็ถอดรหัสรสชาติไปว่าจะเอามาลองทำที่บ้านดูให้ได้ หลังๆนี้ฉันมักทำอาหารจานผักที่เน้นการปรุงรสน้อยๆ แต่เลือกส่วนผสมให้รสชาติที่แท้จริงของผักและส่วนผสมต่างๆออกมาอย่างธรรมชาติ เบาๆสุขภาพดีมีประโยชน์ สะอาดปราศจากสารปรุงแต่ง ถือเป็นการล้างบาปล้างท้องเตรียมพร้อมสำหรับทริปลุยกินเวลาเดินทาง
กินอาหารเสร็จก็เดินขึ้นไปบนหอชมวิวที่เคยเขียนเล่าไปแล้ว หลังจากนั้นเดินลุยป่ากลับไปที่จอดรถอีกใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่า คราวนี้เราเกิดอารมณ์คึกสนุก แทนที่จะเดินตามทางปกติ กลับชวนกันลุยหาเส้นทางใหม่เข้าไปในป่าจนเกือบจะหลงทาง อากาศก็เริ่มมืดแล้ว ดีนะได้ยินเสียงฝรั่งหนุ่มสองคนเดินลุยป่ามาเหมือนกัน เราจึงถามเขาแล้วเดินออกมาด้วยกันเพราะเขารู้ทาง
เป็นอีกวันเดินป่าแบบง่ายๆที่สวยงามมีความสุข และได้เสพธรรมชาติความงามของสวิตเซอร์แลนด์ที่สวยอย่างสุดๆ และที่สำคัญ ไม่ต้องเสียสตางค์เลย
