ถ้าจะให้อธิบายสั้นๆว่าอาหารบัลแกเรียเป็นอย่างไรนั้น ฉันขอสรุปว่ามันคืออาหารที่มีความเป็นลูกครึ่งระหว่างอาหารตุรกีกับฮังการี คือจะมีพวกเนื้อแดงเยอะเหมือนตุรกี แต่ก็มีเป็ดและตับห่านเหมือนฮังการี ส่วนความแตกต่างก็คือบัลแกเรียจะกินผักสดเยอะมาก เพราะเป็นสิ่งที่เขาเพาะปลูกได้ดีและมีปริมาณมาก อาหารประจำชาติที่แท้จริงของประเทศนี้ จึงคือบรรดาสลัดทั้งหลาย โดยเฉพาะสลัดที่ชื่อว่า Shopska เป็นจานประจำชาติที่มีในร้านอาหารทุกแห่ง ซึ่งฉันว่าคล้ายสลัดประจำชาติจอร์เจียเหมือนกัน คือเป็นแตงกวามะเขือเทศหอมใหญ่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอคำมาแล้วโปะหน้าด้วยชีสสีขาวประจำชาติที่เรียกว่า Sirene ซึ่งชีสนี้มีให้กินทุกมื้อ และนำมาปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวานทีเดียว
ทางตอนเหนือของประเทศที่ติดกับทะเลแม่น้ำดานูบก็จะกินปลากันเยอะ โดยเฉพาะปลาคาร์พจากแม่น้ำดานูบ ตอนแรกฉันก็ไม่กล้าสั่งเพราะที่บ้านเมืองไทยเลี้ยงปลาคาร์พเยอะเลยทำใจไม่ได้ แต่สุดท้ายด้วยความอยากลองจึงสั่งมา ปรากฏว่าชอบมากที่สุดในบรรดาปลาทั้งหมด และฉันมีความรู้สึกว่ามันเหมือนปลาสวายเลย ตอนกินจึงคิดบอกตัวเองว่ากินปลาสวายไม่ใช่ปลาคาร์พ ก็สบายใจขึ้นมาหน่อย
Fish Carp Fish
ส่วนทางทะเลดำก็จะกินอาหารทะเลกัน เช่นกุ้ง หอยแมลงภู่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ที่ฉันชอบมากที่สุดคือพริก คนที่นี่กินเผ็ดกันใช้ได้ทีเดียว อาหารเขาไม่ใช่จะเผ็ดทุกจาน แต่เขามีพริกบางอย่างที่เผ็ดแล้วเขาก็กินกันได้ ฉันไปเจอพริกอบในน้ำมันรากผักชีในวันแรก เผ็ดจนออกหูแต่อร่อยมากๆ ติดใจเป็นที่สุดแต่หลังจากวันนั้นต่อให้สั่งจานพริกอะไรมาก็ไม่เจอเผ็ดแบบนั้นอีกเลย
Chili – the best Chili in cheese Seafood
มีวันหนึ่งไปเจอร้านอาหารที่เขาช่างคุยและพูดภาษาอังกฤษได้ดี พอรู้ว่าฉันอยากกินพริกเผ็ดๆเขาบอกว่าพริกแบบนั้นไม่มี แต่มีของเด็ดมาให้แทน ว่าแล้วเขาก็เอาซอสพริกสี่อย่างมาวางเรียงให้ดู บอกว่าเป็นซอสพริกพิเศษที่ผลิตในบัลแกเรีย แล้วก็อธิบายสรรพคุณว่าอันไหนเผ็ดมากเผ็ดน้อย รสชาติต่างกันอย่างไร ชื่อพริกที่ทำคืออะไร แล้วให้ฉันทดลอง เหมือนอย่างกับ wine tasting ฉันก็ค่อยๆทดลองแต่ละรสกับอาหาร โอ้โหเบอร์สามกับเบอร์สี่นี้เผ็ดพอกับพริกเม็กซิกันที่เผ็ดที่สุดในโลกเลย ต้องค่อยๆแต้มทีละหยด แต่อร่อยมากๆเสียดายไม่ได้ซื้อกลับมา
บริกรช่างพูดที่ร้านอาหารเดียวกันนี้ยังมีบริการพิเศษให้ด้วย คือฉันชวนเขาคุยเรื่องโยเกิร์ตของบัลแกเรีย เพราะคนไทยเราจะจำจากโฆษณากันได้ว่าบัลแกเรียคือประเทศแรกที่ให้กำเนิดโยเกิร์ต พอถามเขาก็ตื่นเต้นที่จะอธิบายมากแล้วก็ไปเอาโยเกิร์ตมาสองชนิด แล้วก็ตักใส่จานเปรียบเทียบให้ดูว่าโยเกิร์ตทั่วไปแบบที่ทำขายเป็นอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร ซึ่งมันก็จะคล้ายกรีกโยเกิร์ตที่มีขายทั่วไปในหลายประเทศ แต่โยเกิร์ตแท้ของบัลแกเรียที่เรียกว่า Kiselo mlyako และคนบัลแกเรียนเรียกมันว่า “นมเปรี้ยว” นี้ มีต้นกำเนิดเก่าแก่ถึง 4000 กว่าปี จะมีเนื้อที่ค่อนข้างใสเหมือนเยลลี่มากกว่าโยเกิร์ตที่เราคุ้นเคยกัน และมีรสชาติเปรี้ยวกว่า ชาวบัลแกเรียจะมีความภูมิใจกับโยเกิร์ตของเขามาก เพราะนักวิทยาศาสตร์ชาติเขาเป็นคนค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้นมกลายเป็นโยเกิร์ตชนิดนี้ ซึ่งแบคทีเรียนี้จะมีอยู่ตามธรรมชาติในแถวแผ่นดินของบัลแกเรียและประเทศใกล้เคียง แบคทีเรียชนิดนี้จึงได้รับการตั้งชื่อให้เป็นเกียรติเป็นศรีแก่ประเทศว่า Lactobacillus bulgaricus คนเขาจึงภูมิใจมาก แต่ถ้าใครได้ไปชิมก็จะรู้เลยว่ามันไม่เหมือนรสชาติโยเกิร์ตใดๆที่เรารู้จักหรือคุ้นเคยแม้แต่น้อย ถามฉันว่าอร่อยไหม ฉันว่าถ้ากินเปล่าๆมันจะเปรี้ยวเกินไป แต่ถ้าเอามาทำขนมหรืออาหารนี้อร่อยมาก ฉันชอบทุกจานเลย
ตลอดทริปนี้อาหารส่วนมากที่เรากินจะเป็นอาหารพื้นเมือง และมีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือ อาหารที่เป็นที่นิยมมากของทั้งประเทศจนแทบจะกลายเป็นอาหารประจำชาติไปแล้วคือพิซซ่า ไม่ว่าร้านอาหารจะหรูขนาดไหนก็จะมีพิซซ่าเต็มเมนูไปหมด แต่ฉันว่าพิซซ่าของเขามันไม่ได้อร่อยใกล้เคียงของอิตาลีเลย เขาจะใช้ผลผลิตที่ได้ในประเทศมาโรยหน้าและก็มักจะใช้ชีส Sirene ของประเทศเขา ฉันเลยว่ามันสู้ของอิตาลีไม่ได้
บัลแกเรียเป็นประเทศที่ยังล้าหลังประเทศอื่นอยู่ในแง่ของวัฒนธรรมสมัยใหม่รวมไปถึงวัฒนธรรมอาหารด้วย แต่ก็เริ่มๆจะมีร้านอาหารแบบโมเดิร์นหลายร้านแล้ว ด้วยความที่เดี๋ยวนี้ฉันไม่ค่อยชอบกินเนื้อแดงมากจึงไม่สามารถจะกินอาหารพื้นเมืองได้ทุกมื้อ เลยสลับไปกินอาหารโมเดิร์นดูบ้าง บทสรุปคือว่า ให้คะแนนความพยายาม แต่รสชาติและพรีเซนเทชั่นนั้นยังหนทางยังอีกยาวไกล ยิ่งถ้าเทียบกับประเทศหลังม่านเหล็กที่เพิ่งหัดทำอาหารสมัยใหม่เช่นกัน เช่นสโลวีเนียและจอร์เจีย ฉันว่ายังตามหลังคนอื่นเขาอยู่เยอะ
และมีความตลกอยู่ด้วยหนึ่งมื้อ คือในเมืองต่างจังหวัดเมืองหนึ่งนั้นมีร้านอาหารดังร้านหนึ่งที่โฆษณาว่าเขามีซูชิที่อร่อยที่สุดดีที่สุด บังเอิญเราไปกินร้านนั้นและฉันอยากกินข้าวขึ้นมา จึงลองสั่งซูชิจานเล็กมาลองหนึ่งจาน ปรากฏว่าพอยกมามันคือซูชิที่ราดน้ำจิ้มไก่แม่ประนอม!!! พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีนี้ ฉันได้แต่เอากระดาษทิชชูซับน้ำจิ้มไก่ทิ้งออกไปแล้วก็เอาซูชิจิ้มซีอิ๊วเยอะๆกินแทน ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี