ทริปนี้เป็นทริปควบ 3 ประเทศยุโรปตะวันออกทางใต้บนคาบสมุทรบาลข่าน ที่ติดกับทะเล Adriatic ฉันเริ่มทริปโดยบินมาลงที่ Tirana เมืองหลวงของประเทศ Albania แต่พอรับรถเช่าแล้วเราก็ขับลุยมายังประเทศ North Macedonia เลย โดยที่แวะกินข้าวกลางวันและเที่ยวนิดหน่อยที่ประเทศ Kosovo ไม่ได้คาดคิดเลยว่าทิวทัศน์ระหว่างทางของการขับรถจะสวยด้วยภูเขาปกคลุมหิมะขาว คล้ายสวิตเซอร์แลนด์เลย จากทีราน่าเมืองหลวงของอัลเบเนีย ขับรถเพียงสองชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงชายแดนของโคโซโวแล้ว

โคโซโวเป็นประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวียเก่า มีพลเมืองไม่ถึงสองล้านคน สิ่งที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนและแปลกใจมากก็คือพลเมืองเขาเป็นมุสลิมถึง 96% ทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะขับรถไปทางไหนจึงเห็น Minaret หรือหอคอยสูงรูปจรวดที่เป็นส่วนหนึ่งของมัสยิดอยู่เต็มไปหมด อีกอย่างหนึ่งที่แปลกใจก็คือ เขาใช้เงินยูโรถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกอียู หรือ ยูโรเปียนยูเนียน แต่ก็มีบางส่วนของประเทศใช้เงิน Dinar บ้าง มาที่นี่จึงสะดวกเรื่องการใช้เงินเพราะไม่ต้องแลกเป็นอัตราท้องถิ่นให้ยุ่งยาก

ประวัติย่อๆ ของประเทศเขานั้นก็คือ ในอดีตโคโซโวเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบเซ็นไทน์ จักรวรรดิบัลแกเรีย จักรวรรดิเซอร์เบียร์ ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในแถบนี้ ที่น่าสนใจคือช่วงจักรวรรดิออตโตมันเพราะว่าปกครองแผ่นดินนี้อยู่ถึงห้าศตวรรษจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 นี้เลย คงจะเป็นเหตุผลนี้ละมังที่ประชาชนส่วนมากจึงเป็นมุสลิม ต่อมาออตโตมันก็ยกประเทศโคโซโวให้เซอร์เบียร์และมอนเตเนโกร ตอนหลังจึงได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูโกสลาเวียในที่สุด และเมื่อยูโกสลาเวียล่มสลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองก็ยกโคโซโวให้เป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบียร์ ซึ่งต่อมาก็เกิดสงครามโคโซโวเพื่อต่อสู้ให้ประเทศเป็นอิสระแยกตัวออกมา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของประเทศแถบนี้ คือประเทศเล็กประเทศน้อยพวกนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่ใหญ่กว่าเช่นเซอร์เบียร์บ้างบอสเนียบ้าง แล้วต่อมาต่างก็อยากเป็นอิสระปกครองตัวเอง ส่วนมากก็จะมีปัญหาเรื่องความแตกต่างของเชื้อชาติด้วย อย่างเช่นโคโซโวเองนั้นพลเมืองส่วนมากมีเชื้อชาติอัลเบเนียด้วยซ้ำ จึงไม่อยากอยู่เป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบียร์ ในที่สุดโคโซโวจึงประกาศเป็นเอกราชจากเซอร์เบียร์ออกเป็นประเทศอิสระเมื่อปี 2008 นี่เอง และถึงแม้ร้อยกว่าประเทศที่เป็นสมาชิก UN จะยอมรับความเป็นอธิปไตยนี้ แต่เซอร์เบียก็ยังไม่ยอมรับจนบัดนี้

เมืองหลวงของโคโซโวคือ Pristina แต่ทริปนี้ฉันไม่ได้แวะไปเพราะเวลาไม่พอ แล้วจริงๆ เราตั้งใจจะมาเที่ยวที่แอลเบเนียและนอร์ธมาซิโดเนียมากกว่า ซึ่งบังเอิญว่าเส้นทางระหว่างสองประเทศนี้ต้องแล่นผ่านเมือง Prizren ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าสมัยยังเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย ฉันจึงได้แวะกินอาหารกลางวันและเที่ยวเมืองนี้พอหอมปากหอมคอ

แม้ Prizren จะเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของโคโซโว แต่ก็มีพลเมืองไม่ถึง 200,000 คนเท่านั้นเอง ดังนั้นด้วยขนาดแล้วเมืองนี้จึงเล็กนิดเดียว เราแล่นผ่านไปในส่วนของเมืองซึ่งก็มีแต่ตึกเตี้ยๆ ส่วนในตัวเมืองเก่านั้นเดินเล่นวนครึ่งชั่วโมงก็ทั่ว มีมัสยิด Sinan Pasha ให้เข้าไปชม แต่สถานที่ๆ น่าจะเป็นจุดสำคัญที่สุดของเมืองคือสะพานโบราณที่ข้ามแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองคือ Stone Bridge เป็นสะพานปูด้วยหินสำหรับคนเดินข้าม ไปยืนตรงกลางแล้วฝั่งหนึ่งเห็นอาคารในตัวเมืองเก่า มีป้อมปราการเมืองอยู่บนเนินเขาสูงด้านหลัง ส่วนอีกด้านมองไปก็เห็นภูเขาที่มียอดหิมะคลุมอยู่ลิบๆ สวยงามมาก เรากินอาหารกลางวันพื้นเมืองแท้ๆ ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเสร็จแล้วก็เดินเล่นในเมืองเก่าถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แล้วก็มุ่งหน้าขับออกมาสู่จุดหมายถัดไป เป็นการมาเยือนประเทศโคโซโวแบบเล็กๆ กรุบกริบเท่านั้น

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY