ระหว่างทางที่เราจะต้องเดินทางจากเมือง Ohrid ในประเทศ North Macedonia ข้ามชายแดนเข้าไปยังเมือง Tirana เมืองหลวงของ Albania นั้น เราจะต้องผ่านเมืองหนึ่งชื่อ Elbasan ซึ่งฉันอ่านมาว่า ถ้ามีเวลาควรแวะไปดูเสียหน่อย ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กแต่ก็มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ รู้อย่างนี้แล้วจึงต้องจัด จะพลาดได้อย่างไร

Elbasan มีขนาดจิ๋วเดียวจริงๆ ในส่วนเมืองเก่ามีกำแพงเมืองล้อมรอบ มีหอนาฬิกา Sahati และด้านในมีมัสยิด The King Mosque ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในมัสยิดเก่าแก่ที่สุดของประเทศอัลเบเนีย สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในยุคออตโตมัน ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ หรือ Cultural monument ด้วย เวลาฉันไปมัสยิดใดๆ นี้จะมีความเกรงใจเขาอยู่ เพราะหลายที่จะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้า พอไปถึงที่นี่ฉันก็ยืนลังเลอยู่ที่รั้ว เพราะมันเงียบกริบไม่มีคนเลย เกรงใจเขา ไม่รู้เขาเปิดไหม หรือรอคนมาทำละหมาดหรือไม่อย่างไร  บอกสามีว่าเข้าไปดูคนเดียวเถอะแลดูเงียบมาก เขาอาจจะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้า แต่ปรากฏว่า มีผู้ชายสองคนนั่งเอกเขนกเงียบๆ อยู่ด้านหน้าประตูที่เราไม่สังเกตมาก่อน เขากลับโบกไม้โบกมือบอกว่าให้เราสองคนเข้าไปดูข้างในได้ แถมยังบอกว่าให้ถ่ายรูปได้ด้วยอีก ฉันจึงรีบถอดรองเท้าเข้าไปทันที ด้านในไม่มีคนเลย สถาปัตยกรรมการตกแต่งก็เหมือนมัสยิดทั่วไปมีความชดช้อยสวยงาม และเห็นได้ว่าถึงแม้จะเก่าแก่นับหลาย 100 ปีแต่คนเมืองก็ยังใช้งานอยู่ในชีวิตประจำวันทุกวัน วันละหลายครั้ง ถ่ายรูปแล้วเราจึงอำลาจากมา

ก่อนเดินออกจากเมืองเก่า มองเห็นมีร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่งจัดตกแต่งน่ารักเหลือใจ ตอนแรกก็นึกว่าคงจะดักนักท่องเที่ยวเพราะอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้ากำแพงเมืองเก่าพอดี แต่พอโผล่หน้าไปดูข้างใน โอ้โหมีความแท้แน่จริง เพราะมีคุณลุงคนเดียวทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะรับออเดอร์ จัดโต๊ะ เก็บโต๊ะ ทำอาหาร เตรียมอาหารคิดเงิน ดูเมนูแล้วมีอาหารพื้นเมืองที่เราอยากชิมอยู่ด้วย จึงนั่งจัดมื้อกลางวันไปเลยที่นี่ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ อาหารอร่อยสะอาดสวยงามมีรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะที่ปูกระดาษเรียบร้อย ดอกไม้บนโต๊ะ ดอกไม้ที่แขวนอยู่ อุปกรณ์การรับประทานต่างๆ คุณลุงดูแลทุกอย่างเองคนเดียวจริงๆ อาหารแต่ละอย่างก็มาขนาดใหญ่อิ่มทีเดียว ฉันกินไม่หมดคุณลุงก็ทำหน้าเสียใจ ฉันต้องบอกว่ามันอร่อยมากจริงๆ แต่กระเพาะไหวแค่นี้

คุณลุงถามว่ามาจากไหน พอรู้ว่ามาจากประเทศไทยก็ดีใจ เอาสมุดมาเล่มหนึ่งซึ่งเป็นสมุดที่คุณลุงเอาไว้ให้ลูกค้าต่างชาติมาเขียนเป็นที่ระลึก และมีข้อแม้ว่าต้องเขียนในภาษาของตัวเองด้วย เข้าใจว่าคงจะยังไม่เคยมีใครเขียนภาษาไทยมาก่อน ฉันจึงจัดเต็มให้คุณลุง เลยได้ใจไปอย่างยิ่ง ใครผ่านไปเมืองนี้และร้านอาหารชื่อ Taverna Kala นี้ ฉันแนะนำจริงๆ ไม่ได้สปอนเซอร์เลย  ได้มาแต่ใจคุณลุงและความอร่อยล้วนๆ

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY