Albania เป็นประเทศขนาดเล็กตั้งอยู่บนคาบสมุทรบาลข่านติดกับกรีซ มีพลเมืองไม่ถึง 3 ล้านคน 60% เป็นมุสลิม 20% เป็นคริสเตียน และที่เหลือเป็นอื่นๆ เพิ่งเปิดออกจากม่านเหล็กคอมมิวนิสต์และเปลี่ยนเป็นประเทศ Republic of Albania ด้วยการปกครองใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญเมื่อปี 1991 นี่เอง ประวัติศาสตร์นั้นก็คล้ายกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ คือเคยอยู่ในจักรวรรดิกรีก โรมัน ไบเซ็นไทน์ ที่ยาวนานที่สุดก็ออตโตมันคือนานถึง 5 ศตวรรษ หลังจากนั้นก็เคยมีช่วงสั้นๆแค่ 11 ปีที่ปกครองแบบกษัตริย์ด้วย แต่ก็ถูกอิตาลีบุกยึด คิง Zog ต้องหนีออกนอกประเทศ กษัตริย์ของอัลเบเนียจึงมีเพียงแค่องค์เดียวในประวัติศาสตร์ หลังจากสงครามโลกอัลเบเนียก็เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ นำโดย Enver Hoxha อยู่ถึง 41 ปี (เรื่องนี้เดี๋ยวฉันมาเล่าตอนหน้า) จึงเห็นได้ชัดว่าประเทศเขาเพิ่งจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แค่ 20 กว่าปีมานี่เอง กำลังพัฒนาไปอย่างช้าๆ และยังมีความยากจนอยู่มาก

เมืองหลวงคือ Tirana ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย แต่ก็มีพลเมืองอยู่ไม่ถึงหนึ่งล้านคนเท่านั้น ฉันพักที่นี่สองคืน แต่จะว่าไปแล้วเที่ยวจริงๆ หนึ่งวันก็น่าจะพอ

หัวใจของกลางเมืองก็คือจตุรัส Skanderbeg Square ที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารสำคัญเช่น โรงโอเปร่า ห้องสมุดแห่งชาติ ธนาคารชาติ City Hall กระทรวงต่างๆ มัสยิด Et’hem Bej Mosque ที่เล็กๆ แต่ควรเข้าไปชม

และพิพิธภัณฑ์ National Historical Museum ที่ฉันได้เข้าไปชมด้วย แม้จะโบราณไปสักหน่อย ป้ายส่วนมากก็มีแต่ภาษาอัลเบเนียน แต่ก็พอช่วยให้เข้าใจประวัติศาสตร์ของอัลเบเนียได้ทีเดียว

รอบลานนี้เห็นมีตึกสูงระฟ้าหน้าตาทันสมัยกำลังก่อสร้างอยู่หลายแห่ง เป็นโรงแรมห้าดาวบ้างคอนโดบ้าง ซึ่งฉันแปลกใจมากว่าตึกสูงเหล่านี้เพิ่งจะมาเริ่มสร้างกันในเวลานี้เอง ถ้าเทียบกับประเทศยุโรปตะวันออกอื่นๆ ที่เพิ่งแหวกม่านเหล็กออกมา ก็นับว่าทีราน่าใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะพัฒนาจนเริ่มมีรูปลักษณ์ของเมืองใหญ่ทันสมัย ฉันเดินเล่นไปทั่วเยอะพอสมควรในเมือง แม้จะพอมีอาคารร้านอาหารที่ช้อปปิ้งแบบชีวิตสมัยใหม่บ้าง แต่ก็มีความรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเพิ่งกำลังจะเกิดขึ้นณ.เวลานี้เอง

โบราณสถานแห่งเดียวของเมืองที่ดูเก่าแก่หน่อยน่าจะเป็น Tanners’ Bridge สะพานหินจากศตวรรษที่ 18 สำหรับคนเดินข้ามคลองเล็กๆ ซึ่งปัจจุบันน้ำแห้งหมดแล้วและก็ไม่ได้ใช้สะพานนี้อีกแล้ว เพราะมีถนนใหญ่ตัดอยู่ข้างๆ แต่ก็เป็นสะพานที่น่าไปยืนถ่ายรูปด้วย

ถึงแม้อาคารบ้านเรือนของเมืองทิราน่าจะเพิ่งพัฒนา แต่สวนสาธารณะของเขานั้นไปไกลทีเดียว เป็นสวนใหญ่ใจกลางเมืองชื่อ Grand Park สวยงามเป็นระเบียบต้นไม้ร่มครึ้มเขียวขจีและสะอาดสะอ้านอย่างมาก มีทะเลสาบใหญ่อยู่ใจกลาง เรียกว่าเมืองหลายเมืองที่พัฒนาไปไกลกว่ายังไม่มีสวนสาธารณะที่แลดูดีแบบนี้เลย ตอนเย็นวันหนึ่งเราเดินตัดผ่านสวนสาธารณะไปกินข้าวเย็นยังร้านที่จองไว้  จึงได้เดินชมสวนไปในตัว โดยรวมฉันว่าทีราน่าก็ไม่มีอะไรให้ชมมาก จืดๆ แต่มีสถานที่หนึ่งที่ฉันชอบมากๆ สนุกมากๆ ขอเก็บไว้ตอนต่อไป

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY