วันนี้ฉันจะมาเล่าให้ฟังถึงสถานที่เที่ยวที่สนุกที่สุดเลยของอัลเบเนีย ถ้าเป็นแฟนเพจเหนือฟ้ามานานต้องทายได้แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นแนวสุสาน คุก อะไรประมาณนี้ ส่วนที่ที่ฉันจะพาไปวันนี้คือบังเกอร์ เป็นบังเกอร์ที่ Enver Hoxha ผู้นำคอมมิวนิสต์ของอัลเบเนียได้แรงบันดาลใจมาจากการเยี่ยมเยียนเกาหลีเหนือ ก็เลยมาสร้างหลุมหลบภัยเอาไว้เผื่อเกิดสงครามนิวเคลียร์หรืออันตรายอะไรขึ้น เขาสร้างแบบอลังการงานสร้างสุดๆ มีอยู่สองแห่ง แห่งหนึ่งอยู่ใจกลางจตุรัสกลางเมืองเลย อยู่ใต้ดินข้างใต้กระทรวงมหาดไทยทีเดียว ตรงนี้ปัจจุบันเรียกว่า Bunk Art

และอีกที่หนึ่งอยู่นอกเมืองไปประมาณขับรถ 15 นาที ชื่อว่า Bunk Art 2 อันนี้ขุดเจาะภูเขาเข้าไปอยู่ใต้ดิน ใหญ่โตมโหฬารทีเดียว มีห้องชุดส่วนตัวของ Enver Hoxha เป็นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องประชุม และมีห้องประชุมของผู้นำระดับสูงแล้วก็ส่วนที่พักอาศัยของบรรดาทหาร ทางเข้ามีประตูคอนกรีตหนาซับซ้อนหลายชั้น และเมื่อเข้าประตูมาแล้วก็มีห้องที่เอาไว้อาบน้ำชำระล้างกัมมันตภาพรังสีที่เผื่อติดเข้ามาก่อนเข้าไปข้างในอีกด้วย สุดยอดมากๆ

ฉันได้ไปชมมาทั้งสองแห่ง คอนเซ็ปท์ของเขาน่าสนใจทีเดียว คือใช้สถานที่บังเกอร์เดิมในประวัติศาสตร์มาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยจัดแสดงผสมผสานกันระหว่างคำบรรยายเกี่ยวกับการใช้งานในอดีตของตัวบังเกอร์เอง กับจัดเป็นนิทรรศการเล่าประวัติศาสตร์ในช่วงคอมมิวนิสต์ของอัลเบเนีย และบางส่วนยังเสริมด้วยงานศิลปะแบบจัดตั้งหรือ Installation arts เพื่อให้ได้อารมณ์และความรู้สึกร่วมไปกับเรื่องราวสมัยคอมมิวนิสต์ ดังนั้นการไปเยี่ยมเยือนบังเกอร์ทั้งสองแห่งนี้จึงได้เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ได้เห็นสถานที่จริงในอดีต และได้ชมงานศิลปะในคอนเซ็ปท์เดียวกันอีกด้วย

การที่ได้เข้าไปชม Bunk Art ทั้งสองแห่งนี้ทำให้ฉันเข้าใจเรื่องราวในยุคคอมมิวนิสต์ของประเทศแอลเบเนียเพิ่มมากขึ้น ตอนที่แล้วฉันเล่าไปแล้วว่าประเทศนี้มีประวัติยาวนานและเพิ่งเปิดม่านเหล็กมาเมื่อปี 1991 นี่เอง ในช่วงคอมมิวนิสต์ 40 กว่าปีนั้นเป็นช่วงที่เข้มข้นมาก ผู้นำของประเทศคือ Enver Hoxha ผูกขาดอยู่คนเดียว 41 ปีเลย นิทรรศการที่จัดแสดงให้เห็นนั้นมีแต่ความทรมานลำบากและยากจนในช่วงคอมมิวนิสต์ เห็นแล้วสงสารผู้คนมากๆ มีทั้งคนที่ถูกฆ่าตาย สูญหาย หลบหนี พลัดพรากจากครอบครัว น่าสงสารมาก และที่ร้ายคือคนที่สามารถหนีรอดมาได้และยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยากจนมากๆ สรุปแล้วถึงจะหนีไปจากคอมมิวนิสต์และรอดตายได้ชีวิตเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย มีเทปสัมภาษณ์และข้อเขียนคุณตาคุณยายที่รอดมา ทุกคนมีความจำที่เศร้าโศกและมีชีวิตที่ลำบาก อันที่จริงระบบคอมมิวนิสต์นี้มีแนวคิดมาจากความเท่าเทียมกันของคนทุกคน ซึ่งส่วนตัวฉันว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากแต่ยังไม่เคยเห็นใครนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติได้เลย ระบบนี้จึงยังไม่เคยสามารถพิสูจน์ได้เลยว่าทำให้ผู้คนเท่าเทียมและมีความสุขอย่างแท้จริง เรื่องของประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์นี่คุยกันได้ยาวนานไม่รู้จบ ละเอียดอ่อนซับซ้อนมากๆ เอาเป็นว่าถึงแม้ฉันจะพยายามทำความเข้าใจและมีความสนใจส่วนตัวอย่างมาก พยายามศึกษาของทุกประเทศที่ไปมา แต่ก็ไม่ค่อยอยากจะถกเถียงเรื่องนี้กับใครถ้าไม่คอเดียวกันจริงๆ ไม่อย่างนั้นทะเลาะกันเรื่องการเมืองตายเลย

แต่กระนั้นก็ทำให้ได้คิด เพราะถึงแม้ Enver Hoxha จะเหมาปกครองในระบบคอมมิวนิสต์คนเดียวอยู่ถึง 41 ปีและคร่าชีวิตคนไปเยอะ แต่วันที่เขาตายก็ยังมีคนรุ่นใหม่ร้องไห้โศกเสียใจในพิธีศพมากมาย ก็ยากที่จะพูดว่าถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่าหลังจากเปิดม่านเหล็กออกมาแล้ว 20 กว่าปี ประเทศแอลเบเนียก็ยังล้าหลังและยากจนกว่าประเทศที่เปิดเสรีมาก่อน สำหรับการไปเยี่ยมชม Bunk Art ทั้งสองที่นั้น กระซิบว่า ถ้าใครตั้งใจจะไปทั้งสองที่ก็ให้ซื้อตั๋วทีเดียวสำหรับสองแห่งเลยเพราะจะได้ส่วนลดถูกกว่าแยกกันซื้อคนละครั้ง

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY