ใครมาโรมาเนียก็คงจะพลาดไม่ได้ที่จะไปชมปราสาท Muzeului ที่เมือง Bran หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกกันว่าปราสาทแดรกคูล่า อันที่จริงฉันก็รู้มาแล้วว่าปราสาทนี้แทบจะไม่เกี่ยวพันกับแดรกคูล่าเลย และ Vlad the Impaler ที่เป็นต้นฉบับของท่านเคานท์แดรกคูล่าก็ไม่ได้มีประวัติหรือความจริงอะไรเกี่ยวกับการเป็นผีดูดเลือดเลย แต่ไหนๆ มาแล้วก็ต้องไปดูให้รู้ให้เห็นกับตา

ปราสาทนี้อยู่ที่เมือง Bran เดินทางไปได้สะดวก ตัวปราสาทเองถูกสร้างโดยพวก Saxons ในศตวรรษที่ 14 เพื่อเป็นป้อมปราการดูแลดินแดน Transylvania บริเวณนั้น ภายหลัง Vlad the Impaler ได้เป็นผู้ปกครองในเขตนี้และได้ครองปราสาทเอาไว้อยู่พักหนึ่งในศตวรรษที่ 15 แต่ตัวปราสาทเองจริงๆ แล้วมีความเกี่ยวข้องกับพระราชินีมารีแห่งโรมาเนียอันเป็นที่รักของประเทศโรมาเนียมากกว่า และประชาชนได้มอบปราสาทนี้ให้เป็นของขวัญแก่พระนาง ซึ่งพระนางผู้ซึ่งมีความสนใจในเรื่องการตกแต่งอยู่แล้วก็ได้ทรงออกแบบตกแต่งปราสาทแห่งนี้เอง และได้มาพักผ่อนที่นี่ในช่วงหน้าร้อนเป็นประจำ ถือเป็นปราสาทที่พระนางรักมากๆ ปัจจุบันนี้ปราสาทได้ตกทอดเป็นมรดกแก่หลานของพระองค์ในตระกูล Habsburg ซึ่งก็เปิดให้พวกเราเข้าชมได้จนบัดนี้

ในปราสาทมีนิทรรศการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับควีนมารีและมีรูปลูกหลานของพระองค์ในตระกูล Habsburg เสียเป็นส่วนมาก เครื่องเรือนของใช้และการจัดแต่งก็เป็นของพระองค์ การไปเยือนปราสาทนี้จึงเหมือนกับไปเยือนบ้านพักตากอากาศของกษัตริย์มากกว่าอารมณ์ไปเยี่ยมปราสาทผีสิง มีบางห้องบางส่วนที่จัดทำเป็นนิทรรศการพูดถึงแดรกคูล่าและเรื่องราวเกี่ยวกับผีดิบบ้าง แต่ฉันว่าเขาทำเป็นกิมมิกให้แลดูมีเรื่องราวเล่าให้ฟังมากกว่าเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง และแทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับปราสาทนี้เลย

ส่วน Vlad the Impaler คือใคร เขาคือ Vlad Tepes เกิดในต้นศตวรรษที่ 15 ที่เมือง Sighisoara ใน Transylvania ไม่ไกลกันจาก Bran พ่อของเขาชื่อ Vlad Dracul ได้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นผู้ดูแลในเขตนี้ แต่ในขณะที่เขายังเป็นเด็กอยู่ก็ถูกพ่อส่งเป็นตัวประกันไปให้สุลต่านแห่งตุรกี ซึ่งเป็นที่ๆ เขาได้โตมากับความโหดร้ายของพวกเติร์ก เห็นคนถูกจับไปทรมาน ถูกทำให้หวาดกลัว และอยู่มากับสงครามการต่อสู้ ในที่สุดพ่อเขาก็ถูกสังหารโดยเจ้าชายแห่ง Transylvania ตัวเขาเองก็อยู่อย่างลำบาก โดนส่งไปจำนำเปลี่ยนมือไปอีก จึงไม่แปลกใจที่ทำให้เขาโตขึ้นมากลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมอย่างมาก

เมื่อเขาโตขึ้นก็ได้กลายมาเป็นผู้ปกครองของแคว้น Wallachia ใน Transylvania ต่อสู้กับพวก Saxons และเติร์กเพื่อป้องกันทรานซิลเวเนียมาตลอด สังหารข้าศึกมากมาย ที่เขากลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงก็เพราะลักษณะการฆ่าคนที่โหดเหี้ยมของเขา ภาษาอังกฤษเรียกว่า Impalement นั่นก็คือการเอาไม้ที่ยาวกว่าความสูงของคนเสียบเข้าไปทางทวารหรือช่องคลอดให้ทะลุขึ้นไปทางปาก เสียบทิ้งเป็นแนวตั้งไว้บนพื้น แล้วปล่อยให้คนนั้นตายช้าๆ คนที่ถูกเสียบไม้เข้าไปแล้วนี้จะต้องยืนเขย่งด้วยปลายเท้าเพื่อยันเอาไว้ไม่ให้ไม้ดันเสียบทะลุตัวขึ้นไป แต่ในที่สุดก็จะเหนื่อยจนทนไม่ไหวต้องทิ้งน้ำหนักลง ไม้นั้นก็จะถูกดันทะลุจากด้านล่างของตัวขึ้นไปเรื่อยๆ บางคนตายภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่บางคนก็ต้องทรมานโดนเสียบไม้เป็นหมูปิ้งอยู่กลางแจ้งอย่างนั้นถึงหลายวันทีเดียวกว่าจะสิ้นใจ นับว่าโหดเหี้ยมมาก เคยมีทหารฝ่ายเติร์กบุกดินแดนเข้าไป ปรากฎไปเจอคนถูกเสียบไม้ให้ตายแบบนี้โดย Vlad ถึง 20,000 คนเต็มพื้นที่ 1×3 ตารางกิโลเมตร  พวกทหารเติร์กเห็นแล้วตกใจกลัวหวาดผวาจนต้องหนีกันกระเจิงไป

ส่วนสาเหตุที่เขากลายมาเป็นต้นแบบของแดรกคูล่าแวมไพร์ผีดิบที่โด่งดังนั้น เป็นเรื่องของนิยายล้วนๆ Bram Stoker ชาวไอริชผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ต้องการเขียนพล็อตนิยายเพื่อเอาไปทำหนัง จึงได้มาพักอาศัยอยู่ที่ Transylvania เพื่อหาแรงบันดาลใจ เมื่อได้รับรู้เรื่องของ Vlad the Impaler จึงแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วเอาชื่อ Dracula มาจากนามสกุลของพ่อเขาคือ Dracul อันแปลว่าปีศาจพอดี ชื่อก็ให้ ปราสาทต้นแบบก็มี แถมคนแถวนั้นยังมีความเชื่อเรื่องแวมไพร์กันอีกตามประสายุโรปตะวันออกในยุคนั้น สรุปนิยายแดรกคูล่าจึงถือกำเนิดขึ้น และโด่งดังจนเอาไปทำหนังหรือแต่งเป็นนิยายเพิ่มเติมนับไม่ถ้วน Vlad the Impaler จึงกลายมาเป็นแดรกคูล่าไปอย่างตกกระไดพลอยโจน และปราสาท Muzeului ที่ตากอากาศของควีนมารีก็กลายมาเป็นปราสาทแดรกคูล่า เก็บเงินนักท่องเที่ยว และเป็นที่ๆ นักท่องเที่ยวมาเยือนสูงที่สุดของประเทศโรมาเนียไปอย่างไม่เกี่ยวกันเลย เรื่องราวก็มีด้วยประการฉะนี้

สำหรับฉันนั้นการได้ไปเยี่ยมปราสาทเก่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เรื่องราวจะจริงหรือเท็จอย่างไร คุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมนั้นก็ทำให้ฉันตื่นเต้นสนุกสนานได้เสมอ โดยเฉพาะปราสาทนี้ที่ได้รับการตกแต่งโดยพระราชินีมารีเองซึ่งทรงได้รับคำนิยมว่ามีสไตล์การแต่งบ้านเป็นรูปแบบเฉพาะของตนเอง จึงเท่ากับว่าได้มาชมสถาปัตยกรรมที่แปลกออกไป ซึ่งตรงจุดนี้ก็ต้องนับว่าสวยงามสนุกสนานคุ้มกับที่ได้มาชม ใครชอบชมปราสาทเก่าฉันก็แนะนำให้ไป แต่ถ้าใครจะไปเพื่อฟังนิยายหรือหาความจริงอะไรเกี่ยวกับแดรกคูล่าผีดิบละก็ บอกไว้เลยว่าเรื่องแต่งล้วนๆ

NO COMMENTS