เรื่องเล่าเดินป่าที่สวิตเซอร์แลนด์เรื่องนี้ไม่ยาว เพราะไม่มีอะไรให้เล่ามาก แต่เป็นเรื่องหนึ่งที่เขียนบรรยายได้ยากที่สุดทีเดียว เพราะไม่รู้จะเรียกสิ่งประหลาดนี้ว่าอะไร เกิดมาก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ หมดปัญญาหาคำศัพท์มาเรียก เลยขอพูดง่ายๆว่า ไปเดินป่าดูรอยแยกประหลาดของหินยักษ์ ที่กลายมาเป็นทางเดินสวยสุดบรรยายก็แล้วกัน

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ป่าสวยที่สุดในความคิดฉัน เพราะใบไม้สีเหลืองแดงทั้งบนต้นและบนพื้นนั้น สีมันจัดจ้านแปลกตาถูกใจจริงๆ โดยเฉพาะบนทางที่ใบไม้ปูเป็นแสดแดงนั้น นุ่มเท้าเหมือนได้เดินไปบนพรมแดง ดังนั้นฉันจึงมักออกไปเดินหรือขี่จักรยานในป่าแทบทุกสุดสัปดาห์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นป่าเล็กป่าใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่เที่ยวที่นิยม ป่าหลังบ้านหรือป่าในหมู่บ้านถัดไปก็สวยทั้งนั้น เป็นการชมความงามของป่าแบบชีวิตประจำวันของคนสวิสจริงๆ

จากบ้านฉันที่ชานเมืองซูริก ขับรถไปไม่เกินชั่วโมง เลยเมือง Rapperswil ไปไม่มาก มีหมู่บ้านเล็กๆชื่อ Bachtel ที่มีภูเขาเตี้ยๆให้เดินป่าอย่างสบายๆได้ในเวลา 3 ชั่วโมง ไม่มีทางชัน ไม่มีทางแคบ ไม่มีทางลื่น ไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ จากที่จอดรถเดินไต่ขึ้นเนินไปนิดเดียวก็ถึงชายป่า จากนั้นก็เดินแบนๆราบๆไปตามทางเดินในป่า สนยังเขียวเข้มทึบอยู่ มีมอสสีเขียวจับอยู่บนลำต้นทั่วไป แม้ใบไม้จะร่วงลงพื้นมากจนทางเดินกลายเป็นสีส้มหมดแล้ว ทำให้เป็นป่าที่มีสีเขียวและแดงจัดจ้านตัดกันสวยเป็นที่สุด

เข้าไปในป่าไม่นานก็มาโผล่ที่ลานเปิดโล่งตรงจุดสูงสุดของเนิน มีหอชมวิวที่เราสามารถไต่บันไดวนขึ้นไปชมวิวด้านบน เห็นทะเลสาบซูริกตรงปลายสุดที่ติดเมือง Rapperswil และเมืองอื่นๆในบริเวณเช่น Hinswil และ Uster ซึ่งนับว่าเป็นละแวกชานเมืองของซูริก และเห็นไร่นาของชาวบ้านเขียวสดลาดไปตามเนินเขา มีน้องวัวเดินเล็มหญ้า เป็นวิวแบบสวิสที่ชินตา เหมือนกับจะไม่มีอะไรแปลกประหลาดซ่อนอยู่

ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีเซอร์ไพรส์ได้เจออะไรแปลกประหลาด หนุ่มที่พามาเดินป่าคราวนี้ (สามีนั่นเอง) รู้ใจว่าฉันชอบของแปลกแนวน่าค้นหา อุบเงียบไว้ไม่บอกว่าจะมาพาดูสิ่งนี้ ลงมาจากหอชมวิวแล้วเราก็นั่งพักกินผลไม้บนม้าไม้ใจกลางป่าสวย มีแต่ใบไม้แดงรอบตัว สวยโรแมนติกมากๆ กินเสร็จพักชมบรรยากาศรอบตัวจนชุ่มหัวใจ พอลุกขึ้นฉันนึกว่าเราจะเดินกลับ สามีก็ชี้นิ้วไปที่โขดหินยักษ์ไม่ไกลจากที่นั่งที่มีรอยแยกบางๆเหมือนใครเอามีดมากรีดไว้ แล้วบอกว่า มา เรามากระโดดลงไปในซอกหินนี้กัน

ฉันก็ อึ๊ย อะไร… จะมุดลงไปในรูแคบๆเนี่ยนะ จะลงไปทำไม จะลงได้ไง มันแคบมากๆ ซอกเล็กจิ๊ดเดียว ฉันตัวเล็กกว่าเธอมากๆยังคิดว่าไม่สามารถแขม่วพุงลงไปเลย แล้วข้างในซอกนั้นมีอะไรก็ไม่รู้ มีตัวสัตว์อันตรายที่กบดานอยู่หรือเปล่า ไม่เอา กลัวงูกัด เขาก็บอกว่า ไปได้ๆ ฉันนึกว่าสามีล้อเล่นแน่ๆ แต่เขาย้ำกว่าไปได้จริงๆ นี่แหละความลับของป่าตรงนี้ที่ตั้งใจพาเธอมา ว่าแล้วก็กระโดดนำเข้าซอกเล็กแคบนั้นหายปุ๊บลงไปก่อน ฉันยิ่งกรี๊ดด้วยความตกใจ ว้ายเธออย่าไปเดี๋ยวตกไปตาย เขาส่งเสียงมาว่า ตามมาๆ เธอต้องชอบ ฉันจะทิ้งเขาก็ไม่ได้ เป็นไงเป็นกัน ตกก็ตกด้วยกันแล้วกัน จึงค่อยๆเดินเข้าไปที่ซอกนั้นแล้วก้าวขาหย่อนตัวลงไปทีละก้าว

ปรากฏว่าในซอกแคบนั้นเราสามารถแทรกตัวลงไปได้จริงๆ แต่ต้องถอดเป้ออกจากหลังและทำตัวแบนลีบมากๆ ต้องหาที่วางเท้าเกาะไปบนผนังที่เป็นรอยแยกของหินและรากไม้ แล้วก็หย่อนตัวทิ้งลงไปให้จนถึงพื้นตรงก้นเลย พอลงไปถึงพื้นแล้วซอกนั้นก็จะกว้างขึ้นกว่าข้างบน พื้นปูด้วยใบไม้สีแดงเหมือนพรมกำมะหยี่หนานุ่ม สองข้างเป็นกำแพงหินตัดตรงสูงลิบขึ้นไป มันคือซอกระหว่างหินแบบแคนยอนจริงๆ เป็นทางเดินแคบยาวให้เราเดินออกมา และค่อยๆเผยกว้างขึ้นจนออกไปด้านนอก เหมือนเราค่อยๆเดินออกจากก้นถ้ำที่แคบ เผยกว้างออกสู่โลกภายนอกทีละน้อยๆ โอย มันช่างประหลาดล้ำดีแท้ เป็นการค้นพบที่สุดแสนจะตื่นเต้นแล้วก็สวยงามเป็นที่สุด เหมือนดินแดนลับในนิทานฝรั่งไม่มีผิด

ดูรูปไม่พอต้องดูคลิปด้วย

พอเดินออกมาแล้วก็เป็นทางเดินป่าปกติทั่วไป ถ้ามองย้อนเข้าไปทางนี้จะเหมือนเป็นทางเดินเข้าไปในซอกระหว่างหินยักษ์สองก้อนที่ก้นคงจะตันไม่ไหนต่อไม่ได้ เราเดินต่อออกมา มีไม้ปูเป็นขั้นบันไดให้เดินกลับขึ้นไปด้านบน ทางปูพรมไปด้วยใบไม้สีแดง

พอถึงด้านบนฉันจึงสังเกตุเห็นป้ายเล็กๆที่บอกเอาไว้ว่า รอยแยกของหินนี้เรียกว่า Bachtelspalt สามารถเดินลงไปในซอกและวนกลับขึ้นมาได้โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที ฉันไม่รู้จะบรรยายสิ่งนี้ว่าอย่างไร มันไม่มีศัพท์ทางธรณีวิทยาให้เรียก จะแคนยอนมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น แต่คำว่า spalt นี้ในภาษาเยอรมันหมายถึง รอยแยก ช่องว่าง หรือรอยแตก เขาจึงเรียกสถานที่นี้ง่ายๆ ว่า Bachtelspalt หรือ รอยแยกของ Bachtel นั่นเอง

เป็นการค้นพบที่สนุกมากๆ จากที่กลัวตอนแรกกลายเป็นว่าฉันอยากจะเดินวนขึ้นไปหย่อนตัวลงในซอกหินไปกลับอีกหลายๆรอบเลย

นับเป็นเส้นทางเดินป่าที่เรียบง่าย ใกล้ๆ เดินไม่ยาก ใช้เวลาไม่นาน หากแต่มีความลับซ่อนเอาไว้ให้ประหลาดใจและมีความสนุกในการไปเยือน ใครที่หาทางเลือกเดินป่าสวิตฯแบบไม่ยากแต่เร้าใจ ปักหมุดได้เลย หรือใครที่อยากเที่ยวชมป่าสวิสแบบอันซีนสวิตเซอร์แลนด์ ก็ไม่ควรพลาด สำหรับฉัน ได้กลับไปอีกแน่นอน ว่าแต่เอาความลับของรอยแยกหินมาเฉลยเสียอย่างนี้แล้ว ใครที่ตามไปคงอดตื่นเต้นประหลาดใจอย่างฉันสินะ สปอยล์ตอนจบเสียแล้ว

NO COMMENTS