Georgia ลูกครึ่งแสนสวยที่ต้องตกหลุมรัก
จอร์เจียเป็นประเทศเกิดใหม่ที่เคยอยู่หลังม่านเหล็กของรัสเซียมาก่อน จึงมีจริตเป็นฝรั่ง แต่ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ติดกับเทือกเขา Caucasus อันถือว่าเป็นแนวแบ่งทวีประหว่างยุโรปและเอเชีย จอร์เจียจึงนับว่าเป็นประเทศในทวีปเอเชียอย่างเป็นทางการ จากประเทศที่แทบไม่มีใครรู้จัก กลายมาเป็นจุดหมายที่คนไทยมากมายพูดถึงกันในตอนนี้ก็เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือพาสสปอร์ตไทยเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ก็ดูเหมือนความกระจ่างเกี่ยวกับจอร์เจียก็ยังมีไม่มาก หลายคนถามกันว่าน่าไปไหม ได้ข่าวว่าสวย ราคาถูก ฉันได้ไปเยือนมาถึงสิบวันจึงอยากมาเล่าประสบการณ์ในประเทศลูกครึ่งนี้ให้ฟัง
เที่ยวราชาสถานแบบมหารานี ดูเพชรดูวังนั่งๆนอนๆ
เที่ยวเหนือฟ้าพาแม่เที่ยวราชาสถาน ชมชัยปุระและอุทัยปุระแบบเที่ยวง่าย เดินน้อย ถ่ายรูปสวย กินสวย อยู่หรู ช้อปเพชรพลอยเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใหญ่ สบายๆแบบทริปมหารานีอย่างแท้จริง พร้อมโพยช้อปโพยกิน
India Makes Me Nuts ถั่วบ้าจะฆ่าฉันที่อินเดีย
มันเริ่มขึ้นที่ “ถั่ว” แต่จบลงที่ฉันเกือบบ้า(แบบยังพอขำได้อยู่) เรื่องของเรื่องคือว่า จู่ๆฉันก็เกิดอาการแพ้ถั่วขึ้นมาเมื่ออายุสามสิบกว่า แล้วความรุนแรงนี่คือจากศูนย์ คือกินถั่วได้ไม่เป็นอะไร อยู่ดีๆพอจะแพ้ขึ้นมาก็เป็นระดับเกือบตายเลยในครั้งเดียว หลังจากที่รู้ตัวว่าแพ้ถั่วไม่นานฉันก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ที่ต้องเดินทางไปอินเดียบ่อย รู้ๆกันอยู่ว่าอาหารแขกใส่ถั่วเยอะขนาดไหน แต่ที่น่ากลัวกว่าคือแขกไม่รู้จักไม่เคยได้ยินโรคแพ้ถั่ว ไม่เข้าใจว่ามันเป็นการแพ้อาหารที่อันตรายรุนแรงที่สุดในบรรดาแพ้อาหารทั้งปวง
India Makes me Cry (Part III) น้ำตาหลั่ง…ที่อินเดีย (ภาค 3)
สมัยเวลาไปทำงานอินเดียอย่างอุตลุด การจัดการเรื่องต่างๆสำหรับการเดินทาง การประชุม และนัดหมาย ต้องเตรียมล่วงหน้าไว้อย่างดีเลิศเป๊ะๆๆเพราะจะพลาดและเสียเวลาไม่ได้เลย ครั้งหนึ่งฉันต้องวิ่งรอกประชุมหลายที่อย่างแฮ่กมากจากมุมไบต้องจับเครื่องไปประชุมต่ออีกหนึ่งวันที่เดลี เครื่องออกเช้าแปดโมงต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า เครื่องจะลงเก้าโมงต้องวิ่งๆๆๆๆไปเข้าห้องประชุมให้ทันสิบโมง เวลาที่มีเฉียดฉิวมาก เครื่องลงประตูเปิดปุ๊บฉันจึงโกยแน่บวิ่งๆๆๆแหวกบรรดาแขกออกมา ถึงด้านนอกเอ๊ะทำไมไม่มีคนขับรถมายืนถือป้ายชื่อรอรับ
India Makes me Cry (Part II) น้ำตาหลั่ง…ที่อินเดีย (ภาค 2)
พอปี 2548 ชะตาชีวิตที่จะต้องหลั่งน้ำตาอีกและเกี่ยวข้องกับอินเดียอย่างเข้มข้นก็เริ่มขึ้น ฉันได้รับมอบหมายงานให้เป็นผู้อำนวยการดูแลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ว่านายอินเดียและทีมพัฒนาสินค้านั่งประจำอยู่ที่เมืองมุมไบ ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเดินทางไปทำงานอินเดียเฉลี่ยแล้วทุกเดือน บางทีก็บ่อยกว่านั้น ฉันเริ่มคุ้นเคยกับอินเดีย ทั้งผู้คน สถานที่ อาหารวัฒนธรรม ทางหนีทีไล่ และกลยุทธการต่อรองจัดการแขก จนไปมาได้อย่างสบายๆเหมือนบ้านหลังที่สอง
India Makes me Cry (Part I) น้ำตาหลั่ง…ที่อินเดีย (ภาค 1)
ฉันก็เหมือนคนไทยทั่วไปที่โตขึ้นมากับความคิดที่ไม่ค่อยปลื้มนักกับอินเดีย พูดถึงอินเดียก็มีแต่คนบ่นว่าสกปรก แขกพูดเร็วฟังไม่รู้เรื่อง ตัวเหม็น บ้านเมืองเหม็น อาหารเหม็นเครื่องเทศกินไม่ได้ ไม่อยากไป ไม่ไปเด็ดขาด หลายปีผ่านไปได้คำสั่งจากนายว่าให้ไปเมืองมุมไบที่อินเดียอีกเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้แหละที่อินเดียทำให้ฉันหลั่งน้ำตาเป็นครั้งแรก
Back Through Time ที่ลี่เจียง
“เสี่ยวเอ้อ ขอน้ำชาหนึ่งจอก ข้าเดินทางทางมาไกลหลายพันลี้ เหนื่อยเหลือเกิน”
“ขอรับท่านจอมยุทธ”
“ท่านจอมยุทธ ระวังข้างหลัง”.... เช้ง โช้งเช้ง เช้ง
ภาพในจินตนาการของจอมยุทธผมยาวต่อสู้กันแล้วกระโดดตัวเบาไปตามหลังคาเก๋งจีน คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่ขาดไปจากภาพเมืองเก่าลี่เจียงที่อยู่ตรงหน้า ส่วนสิ่งที่เกินมา ก็คือบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินตามกันเป็นสายเลือกซื้อของตามร้านรวงสองฝั่ง จนแน่นถนนแคบๆที่ปูด้วยหินโบราณอายุ 800 กว่าปี
Unbelievable Road Trip จากกรุงเทพถึง Shangri-La แดนสวรรค์สุดขอบฟ้า
เช้าตรู่เมื่อหมอกยังไม่จางดี ที่ร้านกาแฟสดในปั๊มน้ำมันบนทางหลวงหมายเลขหนึ่ง เลยตัวเมืองกำแพงเพชรมาไม่ไกล ลุงชงกาแฟไปพลางเมียงมองมายังรถโฟร์วีลไดรฟว์ของเราที่บรรทุกข้าวของเครื่องใช้และเสบียงเพียบ แล้วถามด้วยเสียงเปี่ยมความสงสัยว่า “จะไปเที่ยวไหน ของเต็มรถขนาดนี้”
คนขับมือหนึ่งของฉันตอบลงเสียงหนักแน่นหากอมยิ้มว่า “บอกไปก็ไม่เชื่อ”
ลุงอึ้งไปนิดหนึ่งด้วยคำตอบที่คาดไม่ถึง และคงประมาณไม่ถูกด้วยว่า คำตอบนั้นเป็นมุกหรือเปล่า แต่ความอยากรู้คงมีมากกว่า ลุงจึงแหย่หาคำตอบต่อ “เชื่อ...บอกมาเถ้อะ....”
“จะขับรถไป...ทิเบต....”