สำลักงานศิลป์ที่ Florence
Florence หรือ Firenze เป็นเมืองหลวงของแคว้น Tuscany ในอิตาลี และเป็นหนึ่งในเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวที่มาอิตาลีต้องมาเยี่ยมชม เนื่องจากมีทั้งเมืองเก่ามรดกโลก เป็นเมืองศูนย์กลางแฟชั่นและความทันสมัยที่จะเป็นรองก็แต่มิลานเท่านั้น และยังมีงานศิลปะชิ้นเอกระดับโลกที่ใครๆต่างก็ต้องเคยได้ยิน เช่นรูปหินอ่อนแกะสลักเดวิดโดย Michaelangelo สำหรับฉันนั้น กรุงโรมคือประวัติศาสตร์ มิลานคือแฟชั่นและชีวิตทันสมัย เนเปิลส์คือเมืองตากอากาศ และฟลอเรนซ์คืองานศิลปะ
Bratislava เมืองหลวงที่เกิดโดยความบังเอิญ
Bratislava เมืองหลวงของประเทศ Slovakia ในปัจจุบัน มีเพื่อนชาวสโลวักเคยบอกฉันว่า มันเป็นเมืองหลวงที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ!
Montevideo เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของอเมริกาใต้
อุรุกวัยเป็นประเทศไม่ใหญ่ มีพลเมืองเพียง 3.5 ล้านคน พลเมืองครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหลวง จึงเท่ากับเมืองมอนเตวิดีโอนี้มีประชากรประมาณแค่เพียง 1.7 ล้านคนเท่านั้นเอง นับว่ามีขนาดกะทัดรัดใช้เวลาไม่มากก็เที่ยวได้ทั่ว ฉันเลือกพักโรงแรมย้อนยุคในตัวเมืองเก่าเลยจะได้เดินเที่ยวสำรวจได้สะดวก
วัดย่านอ่างทอง วัดที่งามคลาสสิคดังพิพิธภัณฑ์ และ “บ้านเขียว” ริมแม่น้ำน้อย
อยุธยามีวัดเก่าที่สวยงามมากมายเกินนับ แต่ฉันเพิ่งได้ไปค้นพบวัดแห่งหนึ่งมา ซึ่งแม้จะไม่ได้สร้างในสมัยอยุธยา แต่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 3 หากก็มีความสวยงามชนิดที่ทำให้หัวใจฉันเต้นไม่เป็นส่ำทีเดียว เพราะสวยทั้งสถาปัตยกรรมและวัตถุโบราณล้ำค่ามากมายที่มีอยู่ในวัด สวยแบบทองแท้ ลุ่มลึก คลาสสิค ไม่โฉ่งฉ่างพาณิชย์แบบที่คนแห่กันไปเช็คอิน
Baarle-Nassau และ Baarle-Hertog เมืองจิ๋วแสนประหลาดที่ตั้งคร่อมพรมแดนเนเธอร์แลนด์-เบลเยี่ยม
มีเมืองเล็กแฝดแห่งหนึ่งที่มีความแปลกประหลาดไม่เหมือนเมืองอื่นใด เมืองแฝดนี้ชื่อว่า Baarle-Nassau ของประเทศเนเธอร์แลนด์และ Baarle-Hertog ของเบลเยี่ยม สองเมืองนี้อยู่ “ติด” กัน และผสมกลมกลืนกันจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองเดียวกัน เพราะว่าความพิเศษก็คือ สองเมืองนี้เป็น Enclaves หรือดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศที่เข้าไปอยู่เป็นไข่แดงตรงกลางของประเทศอื่น ในกรณีนี้ก็คือ Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์มีดินแดนไข่แดง 7 ฟองอยู่ในพื้นที่ของเบลเยี่ยม และ Baarle-Hertog ของเบลเยี่ยมก็มีไข่แดง 22 ฟองอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ด้วยความที่เป็นไข่แดงของกันและกันแบบนี้ ในเมืองทั้งสองแห่งนี้จึงมีเส้นประบอกการแบ่งพรมแดนอยู่ทั่วไปทั้งเมือง
Glorenza และ Müstair สองเมืองติดพรมแดนอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ ที่มีดีซ่อนอยู่
Glorenza หรือ Glurns ในภาษาเยอรมันเป็นเมืองเล็กๆหรืออันที่จริงน่าจะเป็นเพียงแค่ตำบลมากกว่า เพราะมีขนาดจิ๋วเพียงแค่ 13 ตารางกิโลเมตรและมีพลเมืองอยู่ไม่ถึง 900 คนเท่านั้นเอง ตั้งอยู่ในจังหวัด South Tyrol ของเขต Trentino-Alto Adige ประเทศอิตาลี และอยู่ติดกับชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ เรียกว่าไกลปืนเที่ยงมากๆและไม่น่าจะมีคนเคยได้ยินชื่อเมืองนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าใครได้แวะไปแล้วจะตกใจในความน่ารักทีเดียว
Nuremberg และ Rothenburg ob der Tauber สองเมืองน่าเที่ยวของ Bavaria
มือง Nuremberg หรือ Nürnberg ในภาษาเยอรมัน คือเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากมิวนิค ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ฉันรู้จักเมืองนี้ครั้งแรกก็ด้วยชื่อเสียงของเขาเกี่ยวกับไส้กรอก เขามีไส้กรอกประจำเมืองเป็นแบบสีขาวและใช้ต้มแทนการย่างหรือทอด แต่เมืองนี้มีความน่าสนใจมากกว่าแค่ไส้กรอก เขาเคยรุ่งเรืองมากเมื่อ 500 กว่าปีมาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตึกรามบ้านช่องในเมืองถูกทำลายไปถึง 90%
ไปทัวร์กับคนแก่สวิสที่ Tannheim หมู่บ้านจิ๋วในออสเตรีย
ทริปนี้เป็นทริปเที่ยวประจำปีของกลุ่มร้องเพลงของผู้ชายในหมู่บ้าน สามีฉันเป็นสมาชิกร้องเพลงอยู่ในกลุ่มนี้จึงได้รับเชิญให้ไปด้วย กลุ่มร้องเพลงที่เรียก Männerchor นี้ เป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่ในโลกนี้น่าจะมีเหลืออยู่แต่ในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นที่ยังรวมตัวกันอย่างจริงจังแบบนี้ และบางทีเขาก็จัดทริปไปเที่ยวด้วยกันประจำปี ปีนี้ฉันได้ไปกับเขาด้วยที่ Tannheim ในออสเตรีย
Québec ฝรั่งเศสแห่งใหม่บนทวีปอเมริกา
เมือง Quebec City เป็นเมืองหลวงของจังหวัด Quebec ทางตะวันออกของแคนาดาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ มีชื่อทางการว่า Québec มีขนาดไม่ใหญ่ มีพลเมืองประมาณ 5แสนคน แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน่ารักน่าเที่ยวของแคนาดา เพราะเหตุผลหลายอย่าง อย่างแรก นี่คือเมืองที่ฝรั่งเศสมาขึ้นฝั่งตั้งรกรากกลายเป็น New France เมื่อปี 1608 นับเป็นเมือง “ใหม่” ของยุโรปที่ “เก่าแก่” ที่สุดของทวีปอเมริกาเหนือทีเดียว ปัจจุบันเป็นเมืองที่มี Citadel แห่งเดียวที่ยังเหลือป้อมปราการอยู่อย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่เหนือขึ้นมาจากเม็กซิโก ทำให้ตัวเมืองเก่าของเควเบคได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ในปี 1985
Montenegro เมื่อมรดกโลกพบกับความหรูโก้สุดติ่งของเรือยอช์ทและซูเปอร์คาร์
มอนเตเนโกรประเทศริมทะเล Adriatic ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย และเพิ่งประกาศเป็นประเทศอิสระเมื่อปี 2006 นี้ หลายคนอาจจะจำภาพประเทศนี้จากภาพยนตร์เจมส์บอนด์ตอน Casino Royale ที่เข้าฉายในปี 2006 ปีเดียวกับการตั้งเป็นประเทศ ว่าเป็นแหล่งฟอกเงินของบรรดาเศรษฐีทั่วโลก มีคาสิโน มีบรรดาเรือยอช์ทสุดหรูและรถซูเปอร์คาร์ที่จอดกันเต็มท่าเรือ ในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น แม้เศรษฐกิจของมอนเตเนโกรจะดีกว่าประเทศยุโรปตะวันออกหลายแห่ง แต่ก็มีชื่อเสียงในเรื่องความไม่โปร่งใส ความฟอกเงิน และความไม่เป็นประชาธิปไตยพอสมควร แต่อันที่จริงมอนเตเนโกรมีธรรมชาติและเมืองเก่าที่สวยงามจนได้รับยกย่องเป็นมรดกโลกหลายแห่งทีเดียว