Thursday, November 21, 2024
Switzerland

Switzerland

เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แบบที่คนอยู่สวิตฯเที่ยว

ฉันชอบสะพานแขวนเอามากๆ และในที่สุดก็ได้ไปเดินสะพานแขวนนี้สมใจหลังจากที่วางแผนและจดจ้องให้อากาศดีท้องฟ้าเปิดมาสองปี สะพานนี้คือ Peak Walk by Tissot ที่ Glacier 3000 ใกล้เมือง Les Diablerets จะไปถึงได้ต้องขับรถไต่เขาคดเคี้ยววกวนจากเมือง Montreux ไปพอสมควร จากนั้นต้องนั่งกระเช้าแขวนขึ้นภูเขาไปสองกระเช้าจึงจะถึงด้านบนที่ความสูง 3000 เมตรเหนือน้ำทะเล

ใครที่คิดว่าสวิตฯอยู่บนเขาแล้วไม่มีชายหาด เข้าใจผิดแล้วค่ะ ถ้าไม่เชื่อลองมาดูกันว่ามันเป็นอะไรอย่างไรกัน เส้นทางเดิน hiking จาก  Prau la Selva ไป Il Spir ระยะทาง8 กิโลเมตรใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ผ่านทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สดแปร๋น Caumasee นั่นคือตัวอย่างหนึ่งของทะเลและหาดทรายของคนสวิสนั่นเอง

ในวันหยุดยาวของสวิตเซอร์แลนด์ ฉันได้มานอนบนเขาและเดินเขาชมวิวที่ Crans-Montana ในคันโตน Valais ซึ่งนับเป็นประสบการณ์ที่แปลกแตกต่างออกไปจากการเดินเขาทั้งหลายที่เคยเดินเป็นประจำ เพราะ Crans-Montana เป็นบริเวณสำหรับการมาเล่นสกี ในหน้าหนาวที่นี่จะคึกคักมาก ในที่สุดก็ได้มาแม้ตอนนี้จะเริ่มเข้าหน้าร้อน บนภูเขาที่ใช้เป็นลานสกีกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้ตอนหน้าหนาว เพราะมันจะกลายเป็นเส้นทางการเดินเขาที่สวยงามทีเดียว

Glorenza หรือ Glurns ในภาษาเยอรมันเป็นเมืองเล็กๆหรืออันที่จริงน่าจะเป็นเพียงแค่ตำบลมากกว่า เพราะมีขนาดจิ๋วเพียงแค่ 13 ตารางกิโลเมตรและมีพลเมืองอยู่ไม่ถึง 900 คนเท่านั้นเอง ตั้งอยู่ในจังหวัด South Tyrol ของเขต Trentino-Alto Adige ประเทศอิตาลี และอยู่ติดกับชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ เรียกว่าไกลปืนเที่ยงมากๆและไม่น่าจะมีคนเคยได้ยินชื่อเมืองนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าใครได้แวะไปแล้วจะตกใจในความน่ารักทีเดียว

ในสวิตเซอร์แลนด์มีสถานที่อยู่แห่งหนึ่ง ที่ไม่ได้เป็นสถานที่ในประวัติศาสตร์ใดๆ ไม่ได้เป็นมรดกโลก ไม่ใช่ที่หรูหรา ไม่ใหญ่โต แต่เป็นที่ๆติดอันดับยอดอิตใน Instagram ภาพของสถานที่แห่งนั้นทำให้คนมากมายทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะไปเยือน คนหลายคนเห็นภาพแล้วบอกตัวเองว่าต้องไปเห็นให้ได้ก่อนตาย แต่หลายก็บอกว่าคงไม่มีปัญญาไปเห็นเพราะมันคงลำบากเหลือเกินกว่าจะไปถึง สถานที่นั้นคือเกสต์เฮ้าส์เล็กๆที่ดูดิบๆเหมือนโรงเตี๊ยม แต่ตำแหน่งของมันที่ตั้งอิงอยู่หน้าผาสูงเปิดรับวิวภูเขาตระหง่านงามนั้น คือเหตุผลที่ใครๆก็อดไมได้ที่จะกดปุ่ม Like ให้กับภาพจากโซเชียลมีเดียที่เห็นหรือต้องแชร์ต่อกันอย่างไม่หยุด

เส้นทางเดินเขาเมื่อวันอาทิตย์นี้คือ ทะเลสาบ Wägitalersee เดินทางไปง่าย อยู่ไม่ไกลจากเมืองซูริก ใช้เวลาเดินไม่นาน แต่ถึงกับเหงื่อตกและต้องใส่เกียร์ขับเคลื่อนสี่ล้อตอนเดินกันทีเดียวเพราะทางชันและเดินยากมาก

หน้าร้อนที่สวิตเซอร์แลนด์คือช่วงเวลาที่ฉันจะออกตะลุยเดินเขา เพราะติดใจเขาเขียวฟ้าครามทะเลสาบเทอร์ควอยซ์ ทุกสุดสัปดาห์จึงต้องหาเส้นทางใหม่ๆเร้าใจเดินชมธรรมชาติ และเส้นทางที่ฉันหมายมั่นปั้นมือรอที่สุดของซัมเมอร์ 2018 นี้คือ Pizol 5-lake hike หนึ่งในที่สุดของเส้นทางเดินเขาแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์

เรื่องเดินเขากับคนสวิสนี่เหมือนจะเป็นของคู่กันอย่างแยกไม่ออก การเดินเข้าไปในป่าในภูเขานี่เสมือนเป็นวิถีชีวิตประจำวันของคนสวิสทีเดียวเชียว สำหรับฉันที่ย้ายมาอยู่สวิตเซอร์แลนด์ได้ไม่ถึงสิบปี มาแรกๆก็ไม่เข้าใจว่าจะเดินอะไรกันนักหนา ไม่เหนื่อยไม่เบื่อเหรอ มันมีอะไรให้ดูขนาดนั้น แต่พออยู่ๆไป ได้ไปเดินจากที่ง่ายๆสั้นๆก็เพิ่มเป็นนานขึ้นยาวขึ้น เดี๋ยวนี้ติดเดินป่าเดินเขาเหมือนคนสวิสไปแล้วอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เข้าใจแล้วว่ามันสดชื่นมาก เป็นการออกกำลังผสมการท่องเที่ยวไปพบเห็นบรรยากาศใหม่ๆหมู่บ้านใหม่ๆในหนึ่งเดียว ได้ทั้งเที่ยวทั้งแข็งแรง เป็นการบริหารทั้งกายและใจ เดี๋ยวนี้จึงขยันสรรหาสถานที่เดินใหม่ๆที่ไม่เคยไปและออกเดินปีละหลายสิบครั้งไม่ว่าฤดูร้อนหรือฤดูหนาว

ทริปนี้เป็นทริปเที่ยวประจำปีของกลุ่มร้องเพลงของผู้ชายในหมู่บ้าน สามีฉันเป็นสมาชิกร้องเพลงอยู่ในกลุ่มนี้จึงได้รับเชิญให้ไปด้วย กลุ่มร้องเพลงที่เรียก Männerchor นี้ เป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่ในโลกนี้น่าจะมีเหลืออยู่แต่ในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นที่ยังรวมตัวกันอย่างจริงจังแบบนี้ และบางทีเขาก็จัดทริปไปเที่ยวด้วยกันประจำปี ปีนี้ฉันได้ไปกับเขาด้วยที่ Tannheim ในออสเตรีย

นี่คือเส้นทางเดินเขาในสวิตเซอร์แลนด์อีกที่ๆสวยมาก สายนี้เดินโหดหน่อยแต่จุดหมายปลายทางเป็นกำลังใจที่ทำให้ลืมความลำบากไปเลย จุดหมายที่เราตั้งใจไปชมนั้นคือ Triftbrücke หรือสะพาน Trift Bridge สะพานแขวนเดินเท้าที่สูง 100 เมตรและยาว 170 เมตร ข้ามทะเลสาบ Trift สีฟ้าน้ำนม โดยมีหิมะขาวบนยอดเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง แค่ฟังว่าจะได้เดินข้ามสะพานแขวนสูงโล่งบนเทือกเขาแอลป์ก็ตื่นเต้นไม่กลัวเหนื่อยแล้ว